เลนส์ตัวเดียวในกลุ่มของ m4/3 ที่เป็น Auto Focus และใช้ชื่อ Leica แปะลงไป
ราคาสูงเอาเรื่อง แต่คุณภาพและสีที่นุ่มนวลในแบบ Leica Style ก็ไม่ทำให้ผิดหวังที่ซื้อมา . . .
Different Angle
0
comments |
This entry was posted on August 1, 2010
ช่วง 3 - 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมแทบไม่มีโอกาสได้ออกเดินทางไปที่ไหน
ถ้าไม่ได้ออกไปทำงาน ก็จะมีเหตุมีธุระให้ทำจนแทบไม่มีโอกาสได้จับกล้องถ่ายรูป
ขึ้นมาถ่ายรูปอย่างที่ตั้งใจไว้ . . .
ทุกครั้งที่มองย้อนกลับไป ผมมักจะเคืองตัวเองอยู่เป็นนิจ เพราะรู้สึกผิดสัญญากับตัวเองที่พยายามจะ
ฝึกฝนการถ่ายรูปให้ดีขึ้น แต่ผมก็หาจังหวะเวลาที่จะฝึกฝนไม่ได้ . . .
หลายครั้งที่ผมมองว่ามันเป็นเพียง 'ข้ออ้าง' เท่านั้น
อ้างว่าไม่มีเวลา
อ้างว่าจังหวะชีวิตไม่อำนวย
อ้างว่า อย่างนั้น อย่างนี้ . . .
และท้ายที่สุด ผมต้องชดเชยข้ออ้างเหล่านี้ด้วยความเสียดาย
แต่อดีตก็คือช่วงเวลาที่ผ่านไปและไม่สามารถย้อนกลับมาได้
ไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไร จะดีใจ, เสียใจ หรือเสียดาย มากน้อยแค่ไหน
เราก็ต้องใช้ชีวิตอยู่กับมันไป . . . และการยึดติดอยู่กับอดีต ดูจะไม่ใช่หนทางที่ดีนัก
ถ้ารักตัวเอง ก็ไม่ควรทำร้ายตัวเองทั้งทางกายและทางใจ
การรู้สึกเสียดายย่อมมีได้ แต่หากเราจมอยู่กับความรู้สึกนั้นไปเรื่อยๆ
ย่อมเป็นการทำร้ายตัวเองในรูปแบบหนึ่ง
ชีวิตมักมี 'เหลี่ยม' ให้เปลี่ยนทิศ เปลี่ยนมุมของการดำรงชีพไปอย่างคิดไม่ถึงอยู่เสมอ
หลายครั้งที่เราดำเนินชีวิตไปในเหลี่ยมมุมที่เราไม่ได้ตั้งใจ . . . ไม่ได้คาดการณ์ไว้
แต่ถ้าเราเดินไปด้วยสติ เหลี่ยมมุมนั้นอาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป
เดินหลงทาง อาจทำให้เราได้เห็นทัศนียภาพที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
ติดเกาะ ขาดการติดต่อจากโลกภายนอกไปช่วงหนึ่ง อาจทำให้เราได้หยุด
มองเห็นภาพรวม และเป้าหมายของชีวิตที่ชัดเจนขึ้น
ฝึกเล่นเพลงด้วยการฟังเพลง ไม่มีโน๊ตบอก ไม่รู้ว่าที่ถูกต้องนั้นเล่นอย่างไร
เล่นไปตามที่ได้ยิน ถูกบ้าง ผิดบ้าง . . . เราอาจได้พบสิ่งใหม่จากการฝึกนั้น
แค่เราตั้งใจมองให้ดี มองด้วยความคิดสร้างสรรค์
ซึ่งอาจเป็นเรื่องง่ายๆที่หลายคนรวมทั้งตัวเราเองมองข้ามไป
เปิดใจมอง มองให้ออกนอกกรอบที่ครอบตัวเราไว้
มองข้ามกฏเกณฑ์เดิมๆที่ผูกมัดตัวเราอยู่
มองข้ามความเชื่อเดิมที่ฝังใจ
มองให้เห็น 'เหลี่ยม' อื่นๆที่อาจซ่อนอยู่ใกล้ๆเรา ต่างมุม ต่างองศา
แค่เพียงเปลี่ยนมุมที่มอง เราอาจเห็นความงดงามที่ซ่อนอยู่...
และอาจทำให้เราก้าวผ่าน 'ข้ออ้าง' ที่เราเคยบอกตัวเองไปได้อย่างง่ายดาย
ขณะยืนล้างหน้าที่หน้ากระจก ห้องน้ำหลังบ้านตัวเอง
แสงแดดที่ทอดผ่านรั้วหลังบ้าน สาดเข้ามากระทบกับม่านเชือกที่ขยับและบิดตัว เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ล้อไปกับลม
ผมพบว่าความงามนั้นมีอยู่รอบๆตัวเรา เช่นเดียวกับโอกาสและจังหวะของการถ่ายรูป
เพราะจังหวะไม่ได้มีองศาเดียว
เส้นทางสู่ความสำเร็จไม่เคยทอดผ่านไปที่มุมเดียว
ความสุขนั้นเกิดขึ้นได้ทุกเหลี่ยมของชีวิต เพียงแค่พลิกหมุน มองให้เจอเหลี่ยมนั้นด้วยสติที่ตั้งมั่น...
ผมเดินไปหยิบกล้อง . . . กลับมายืนที่หลังบ้านอีกครั้ง ด้วยใจที่ต่างองศาไป . . .
ถ้าไม่ได้ออกไปทำงาน ก็จะมีเหตุมีธุระให้ทำจนแทบไม่มีโอกาสได้จับกล้องถ่ายรูป
ขึ้นมาถ่ายรูปอย่างที่ตั้งใจไว้ . . .
ทุกครั้งที่มองย้อนกลับไป ผมมักจะเคืองตัวเองอยู่เป็นนิจ เพราะรู้สึกผิดสัญญากับตัวเองที่พยายามจะ
ฝึกฝนการถ่ายรูปให้ดีขึ้น แต่ผมก็หาจังหวะเวลาที่จะฝึกฝนไม่ได้ . . .
หลายครั้งที่ผมมองว่ามันเป็นเพียง 'ข้ออ้าง' เท่านั้น
อ้างว่าไม่มีเวลา
อ้างว่าจังหวะชีวิตไม่อำนวย
อ้างว่า อย่างนั้น อย่างนี้ . . .
และท้ายที่สุด ผมต้องชดเชยข้ออ้างเหล่านี้ด้วยความเสียดาย
แต่อดีตก็คือช่วงเวลาที่ผ่านไปและไม่สามารถย้อนกลับมาได้
ไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไร จะดีใจ, เสียใจ หรือเสียดาย มากน้อยแค่ไหน
เราก็ต้องใช้ชีวิตอยู่กับมันไป . . . และการยึดติดอยู่กับอดีต ดูจะไม่ใช่หนทางที่ดีนัก
ถ้ารักตัวเอง ก็ไม่ควรทำร้ายตัวเองทั้งทางกายและทางใจ
การรู้สึกเสียดายย่อมมีได้ แต่หากเราจมอยู่กับความรู้สึกนั้นไปเรื่อยๆ
ย่อมเป็นการทำร้ายตัวเองในรูปแบบหนึ่ง
ชีวิตมักมี 'เหลี่ยม' ให้เปลี่ยนทิศ เปลี่ยนมุมของการดำรงชีพไปอย่างคิดไม่ถึงอยู่เสมอ
หลายครั้งที่เราดำเนินชีวิตไปในเหลี่ยมมุมที่เราไม่ได้ตั้งใจ . . . ไม่ได้คาดการณ์ไว้
แต่ถ้าเราเดินไปด้วยสติ เหลี่ยมมุมนั้นอาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป
เดินหลงทาง อาจทำให้เราได้เห็นทัศนียภาพที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
ติดเกาะ ขาดการติดต่อจากโลกภายนอกไปช่วงหนึ่ง อาจทำให้เราได้หยุด
มองเห็นภาพรวม และเป้าหมายของชีวิตที่ชัดเจนขึ้น
ฝึกเล่นเพลงด้วยการฟังเพลง ไม่มีโน๊ตบอก ไม่รู้ว่าที่ถูกต้องนั้นเล่นอย่างไร
เล่นไปตามที่ได้ยิน ถูกบ้าง ผิดบ้าง . . . เราอาจได้พบสิ่งใหม่จากการฝึกนั้น
แค่เราตั้งใจมองให้ดี มองด้วยความคิดสร้างสรรค์
ซึ่งอาจเป็นเรื่องง่ายๆที่หลายคนรวมทั้งตัวเราเองมองข้ามไป
เปิดใจมอง มองให้ออกนอกกรอบที่ครอบตัวเราไว้
มองข้ามกฏเกณฑ์เดิมๆที่ผูกมัดตัวเราอยู่
มองข้ามความเชื่อเดิมที่ฝังใจ
มองให้เห็น 'เหลี่ยม' อื่นๆที่อาจซ่อนอยู่ใกล้ๆเรา ต่างมุม ต่างองศา
แค่เพียงเปลี่ยนมุมที่มอง เราอาจเห็นความงดงามที่ซ่อนอยู่...
และอาจทำให้เราก้าวผ่าน 'ข้ออ้าง' ที่เราเคยบอกตัวเองไปได้อย่างง่ายดาย
ขณะยืนล้างหน้าที่หน้ากระจก ห้องน้ำหลังบ้านตัวเอง
แสงแดดที่ทอดผ่านรั้วหลังบ้าน สาดเข้ามากระทบกับม่านเชือกที่ขยับและบิดตัว เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ล้อไปกับลม
ผมพบว่าความงามนั้นมีอยู่รอบๆตัวเรา เช่นเดียวกับโอกาสและจังหวะของการถ่ายรูป
เพราะจังหวะไม่ได้มีองศาเดียว
เส้นทางสู่ความสำเร็จไม่เคยทอดผ่านไปที่มุมเดียว
ความสุขนั้นเกิดขึ้นได้ทุกเหลี่ยมของชีวิต เพียงแค่พลิกหมุน มองให้เจอเหลี่ยมนั้นด้วยสติที่ตั้งมั่น...
ผมเดินไปหยิบกล้อง . . . กลับมายืนที่หลังบ้านอีกครั้ง ด้วยใจที่ต่างองศาไป . . .