Panasonic LX3 (Leica Like)

สารภาพเลยว่า ไม่เคยสนใจ หรือ หาข้อมูลเกี่ยวกับ Panasonic เลย
เพราะว่าทุกครั้งที่คิดถึงกล้อง ผมจะคิดถึง 2 ยักษ์ใหญ่ Canon กับ Nikon เสมอๆ ทั้งๆที่ผมก็แค่ home user เท่านั้น . . .

พอหาข้อมูล brand อื่นๆบ้าง ก็ไปติดใจ Ricoh เข้า
ด้วยความที่มันมีสเน่ห์ที่อธิบายกันลำบากหากไม่ได้ลองสัมผัสดูเอง ก็เลยเป็นลูกค้าของ Ricoh อยู่พักใหญ่

เมื่อ Ricoh ตัวเล็กของผมที่รับใช้ผมมานานเริ่มไม่แข็งแรง
ก็ถึงเวลากับกล้องตัวใหม่ (ยังคงใช้ compact เหมือนเดิม) และคิดไม่ถึงเลยว่าจะมา จบ ที่ brand อย่าง Panasonic ไม่ใช่ว่า Bias หรืออะไร แต่ผมแค่มีความรู้+research มาน้อยเกี่ยวกับ Panasonic เท่านั้นเอง

พอได้ลองอ่านข้อมูล + review จากที่ต่างๆ แล้วได้ลองหยิบๆจับๆดูแล้ว+ราคาค่าตัว . . . เทียบกันระหว่าง Ricoh GX และ Panasonic LX3

ผมก็เลือก LX3 ในที่สุด . . .

เปล่า ! . . . LX3 ไม่ได้ดีที่สุด ไม่ได้ดีกว่า Ricoh หรือ Brand อื่นๆ
มันแค่ 'โดนใจ' ผมที่สุดในจังหวะเวลานี้ก็เท่านั้น
ตัดสินใจแล้วก็ออกไปซื้อมาจนได้ . . .

ตอนนี้ก็ต้องถือว่า อยู่ในช่วงข้าวใหม่ ปลามัน . . .
ถือเป็นของขวัญวันปีใหม่ให้กับตัวเองไปเลย
Happy New Year 2009


vthinkvthink

LK 2552

ต้อนรับปีวัว ด้วย design แบบวัวๆกับ LK 2552 logo
v74

ลมหนาว

โดนลมหนาว เล่นงาน อาการทรุด
ไออุตลุด น้ำมูกไหล ใจสั่นหวิว
นอนผิดท่า คอเคล็ด เป็นตะคริว
หิวท้องกิ่ว ลุกไม่ไหว ได้แต่มอง

ท้องก็เสีย ถ่ายเป็นน้ำ สามสี่ครั้ง
หมดพลัง อ่อนเปลี้ย เพลียสมอง
ไข้ก็ขึ้น มึนเมา ดาวคะนอง
พระคุ้มครอง ให้หายไข้ ไวไวเทอญ

Genuine

กด start ----> run
พิมพ์ regedit
แล้วกด enter

HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\
Windows NT\CurrentVersion\Winlogon\Notify

หา folder "WgaLogon" แล้วลบทิ้งทั้ง Folder

Restart . . .

1 คะแนน

"ทำไมหนูถึงไม่ได้คะแนนเต็มจากอาจารย์คะ?" เด็กคนนึงเอ่ยถาม
เธอเป็นนักเรียนใน class ที่ผมสอน
เธอผู้ซึ่งได้ 9.5 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10


คำถามนี้ทำให้ผมอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ผมจะตอบกลับไปว่า
"ผมจด comment ไว้ เดี๋ยวผมกลับไป check ให้ครับ"
เป็นการขอเวลาในการกลับไปดูข้อมูลและตอกย้ำความคิดในการให้คะแนนของผมอีกครั้ง ก่อนจะให้เหตุผลกับเธอ

Post production หรือ Portfolio Preparation คือวิชาที่ผมสอนอยู่ที่ศิลปากร Inter ในเวลานี้ วิชานี้กล่าวถึงการเตรียมตัวและเตรียมผลงานสำหรับการก้าวไปสู่โลกของการทำงานจริง ทำอย่างไรถึงจะ present งานของตนเองให้ออกมาดีที่สุด พร้อมที่สุดสำหรับการทำงานหรือแม้แต่การเรียนต่อ Master Degree
คะแนนสำหรับวิชานี้จึงไม่ได้มาจากการสอบ แต่มาจากการ present ผลงานทั้งหมดของตัวเองในรูปแบบของ Portfolio

ผมคงไม่อึ้งหรือไม่แปลกใจถ้าเด็กที่เข้ามาถามเรื่องคะแนนเป็นเด็กที่ได้คะแนนน้อย แต่กับคำถามจากเด็กที่ได้คะแนนเกือบเต็มนั้น ทำให้ผมถึงกับต้องกลับมาทำการบ้านกันใหม่

9.5 เกิดจาก (9+10) / 2
ใช่ครับ ผมให้เธอ 9 ขณะที่อาจารย์ที่ปรึกษาของเธอให้ 10
คะแนนรวมจากอาจารย์ 2 ท่าน หารด้วย 2 ส่งผลให้เธอได้ 9.5 เต็ม 10
ไม่ต้องคำนวนต่อก็ต้องรู้ได้ทันทีว่า เธอมีโอกาสที่จะได้รับ grade "A" อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่นั่นยังไม่สามารถคลายความสงสัยของเธอลงได้
. . .
แล้ว 0.5 คะแนนนั้น มันหายไปได้อย่างไร?
ด้วยความตั้งใจในการพยายามเป็นผู้สอนที่ดี ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้มีอคติกับเธอ หรือกับนักเรียนของผมคนไหน ดังนั้นประเด็นของการตัดคะแนนด้วยความไม่ชอบพอ หรือ ไม่ถูกชะตากันเป็นการส่วนตัวจึงไม่มีทางเป็นไปได้


เคยไหมครับ เวลาเดินซื้อของแล้วเจอของที่เรารู้สึกสนใจ หยิบขึ้นมาดู
พินิจพิจารณาดูเพียงครู่เดียวก็รู้ได้ว่า ของชิ้นนั้นกำเนิดขึ้นด้วยความตั้งใจของผู้ผลิต
มีความปราณีต พิถีพิถัน ใส่ใจในรายละเอียด . . . ที่สำคัญ ราคาไม่แพง สามารถซื้อได้แต่เราก็ไม่ซื้อมา ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง แม้เพียงน้อยนิด ที่ทำให้เราตัดสินใจไม่ซื้อมันกลับมา
และเราไม่รู้สึกว่าตัดสินใจผิด หรือเสียดาย อยากกลับไปซื้อมันอีก ทั้งๆที่รู้ว่าของชิ้นนั้นเป็นของคุณภาพดี

ไม่ใช่เพราะเสียดายเงิน
ไม่ใช่เพราะของไม่มีคุณภาพ
ไม่ใช่เพราะมันไม่ตอบสนองความต้องการ
แต่มันอาจมีมวลเล็กๆของความรู้สึกภายในบอกตัวเราเองว่า มันน่าที่จะดีได้มากกว่านี้อีกสักนิด

งานของ 'เธอ' สำหรับผมก็เช่นกัน หลัง presentation ผมรับรู้ได้ทันทีถึงความตั้งใจทำงาน และ คุณภาพของงานที่ดี หาก Grade คือรางวัลสำหรับเธอแล้ว เธอสมควรที่จะได้ A อย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนร่วม class อีกหลายคนที่ขาดความรับผิดชอบ หรือ ตั้งใจทำงานน้อยกว่าเธอ . . . แต่สำหรับคะแนนดิบนั้น ผมแอบตัดไว้ 1 คะแนน

1 คะแนนที่ผมไม่อยากหลอกตัวเอง หาก 10 คะแนนเต็มคืองานที่ดีและใช่ ผมขอให้เธอ 9 ได้ไหม?
1 คะแนนที่ยังเห็นจุดเล็กจุดน้อยที่น่าปรับปรุง แม้ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่มันส่งผลต่อความรู้สึกของผมอย่างเลี่ยงไม่ได้
1 คะแนนที่หวังจะกระตุ้นให้เธอพยายามออกแบบให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ทั้งที่เธอก็ทำดีอยู่แล้ว
1 คะแนนที่อยากสอนเธอว่า ในโลกที่กว้างใหญ่นี้ ยังมีคนที่คิดแตกต่าง ชอบ และมองความงามต่างไปจากที่เธอมอง
1 คะแนนที่เธอไม่ได้ผิด เธอไม่ได้ด้อย แต่เธอต้องยอมรับความเห็นที่แตกต่างและอยู่กับมันได้อย่างกลมกลืน
1 คะแนนที่ไม่มีผลต่อ Grade ของเธอสำหรับวิชานี้ที่ผมสอน
1 คะแนนที่ผมเก็บไว้ให้ใจและความรู้สึกของผมต่องานศิลปะ

แล้วผมจะตอบเธออย่างไร?
ด้วยรู้ว่าผมเองก็ไม่ใช่คนที่กำหนดบรรทัดฐานของความงามบนโลกใบนี้
ด้วยรู้ว่าหากตอบว่า ไม่โดนใจ คงไร้เหตุผลเพียงพอที่เธอจะรับฟังได้
ด้วยรู้สึกไม่อยากทำลายกำลังใจและความเชื่อมั่นในการออกแบบของเธอเพราะสิ่งที่เธอทุ่มเทนั้นเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว
ด้วยรู้ว่าสัญชาติญาณและประสบการณ์บอกผมแบบนั้น
และด้วยรู้สึกเกรงใจอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอ หากผม comment ไปในทิศทางที่แตกต่างออกไป

ผมต้องกลับมาทำการบ้านอีกครั้ง เพราะผมเชื่อว่าศิลปะและความชอบนั้น มันมีเหตุและผลรองรับอยู่เสมอ และต้องไม่ใช่เพียงแค่ 'โดน' เท่านั้น
ผมต้องเรียนรู้ที่จะถ่ายทอดแม้เพียงเสี้ยวของความรู้สึก ให้สื่อสารกับผู้รับได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่านี้

1 คะแนนนี้จึงมีความหมายทั้งต่อผมและเธอ
1 คะแนนที่ทำให้ผมต้องกลับมาทบทวนตัวเอง ทั้งในฐานะของ designer และ teacher . . .

Bad day

ตื่นนอน / อากาศสดชื่น /หน้าบ้าน / มอง / ยางรถแบน /
ขับรถ / เติมลม / ศูนย์เสีย (alignment) / ตั้งศูนย์ / 30 นาที / 200 บาท /
กลับบ้าน / ห้องทำงาน / น้ำรั่วซึม / เสื้อผ้า / ทั้งหมด / ชุ่มฉ่ำ / โทรติดต่อช่าง / รับเรื่อง / เงียบ / หมดหวัง / ขับรถ / ซื้ออาหาร / ตัดผม / ป๊า / เว้าแหว่ง / ยาก / หงุดหงิด / ประัคับประคอง / คัน / ซ่อมแซม / valve เปราะ / พุ่ง / ท่วม / ห้องทำงาน / วิ่ง / หลังบ้าน / ตัดน้ำ / พื้นลื่น / ล้มคว่ำ / เข่าปูน / บาดมือ / ตัดน้ำ / กลับห้อง / ยืนมอง / เจ็บเข่า / น้ำนอง / ปลั๊กไฟ / Computer / หนังสือ / โซฟา / ไฟฟ้า / ดูด / ซับน้ำ / บิดน้ำ / ถังน้ำ / ซับน้ำ / คลาน / เช็ดถู / เหนื่อย / เคลื่นย้าย / กระดาษ / บาด / เลือด / เจ็บปวด / อีกครั้ง / ขาดน้ำ / ความต้องการ / valve ใหม่ / ขับรถ / ค้นหา / valve ใหม่ / 300 บาท / กลับบ้าน / ความหิว / ความเจ็บปวด / เปลี่ยน valve / เปิดระบบ / คืนน้ำ / รั่วซึม / ปิดระบบ / พันเทป valve / ติดตั้ง valve ใหม่อีกครั้ง / เปิดระบบ / รั่วซึม / ปิดระบบอีกครั้ง / พันเทป valve อีกครั้ง / ติดตั้ง valve ใหม่อีกครั้ง / อีกครั้ง / อีกครั้ง / ทานอาหาร / รสชาติ / น้ำปลา / สัดส่วน / ล้นเกิน / คลื่นเหียน / ขับรถ / ซื้ออาหาร / สำรอง / กลับบ้าน / เหนื่อยอ่อน / เจ็บปวด / อ่อนเพลีย / บันทึก / blogspot / publish.

Today is

08.08.08

The Dark Night

vthink
ช่วง 4 ปี หลังมานี้ผมแทบไม่ค่อยได้ดูหนังบ่อยนัก ไม่เหมือนสมัยก่อน เนื่องด้วยชะตาชีวิตมันไม่เอื้อให้ดูเท่าไหร่
จนได้มาอ่านกระทู้พี่เพชรใน Guitarthai ชักชวนให้ไปดู the dark night เข้า
ก็สนใจ เพราะ ผมชอบ Batman และหนังประเภทพวก hero + fantasy อยู่แล้ว
โดยเฉพาะ Batman ที่เป็น hero แบบออกไปทางลึกลับนี่ เท่ห์ มาก
ในหนังจอเงินสมัยก่อนนั้น Tim Burton กับ Joel Schumacher ต่างก็สร้าง Batman ไว้ในมุมที่แตกต่างกันและล้วนแล้วแต่ success ทั้งคู่

Tim Burton
1. Batman (1989)
2. Batman Returns (1992)

Joel Schumacher
3. Batman Forever (1995)
4. Batman and Robin (1998)

Christopher Nolan
5. Batman Begins (2005)
6. The Dark Knight (2008)

พอรู้ว่า The Dark Night นำเสนอแง่มุมที่แตกต่างของ Batman ก็สนใจเข้าไปอีกว่า มันจะต่างไปยังไงอีก?.....หรือ มันนำเสนอ มุมแย่ๆของ hero หรือเปล่า?

ช่วงทำละคร ถาปัด . . . รุ่นผมทำเรื่อง พระเอกเขนก หรือ Heroic . . . นำเสนอแง่มุมแย่ๆ หรือ ห่วย ของ hero ต่างๆโดยมี ไอ้มดแดง 1 + superman + batman เป็นพระเอกละคร ซึ่งตลอดละคร เราอยากบอกคนดูว่า คุณเคยคิดบ้างไหมว่า ในวันเวลาที่เราไม่เห็น hero ของเราออกมาพิทักษ์โลกนั้น พวกเขาก็มีวัน+เวลาห่วยๆ เศร้าๆ เหงาๆ และขำๆ ได้เช่นกัน Heroic จึุงไม่ได้นำเสนอมาดเท่ห์ๆของการปราบเหล่้าร้ายจากพวก Hero เหล่านี้เลย


ผม . . . ซึ่งไม่ได้ติดตามข่าวสารอะไรเลย เกี่ยวกับหนัง
อ่านกระทู้จบ เดาไปก่อนเลยว่ามันอาจจะ concept เหมือน Heroic . . . งั้นไปดูมืออาชีพทำหนังดีกว่า

The Dark Night
เปิดเรื่องง่ายๆ ตัดจาก title สีดำเปิดออกสู่แสงสว่างด้วยภาพตัวตลกถือปืน ขย่มขวัญกันด้วย . . . เสียงเข้ากระสุนปืน . . . กับฉากการปล้นธนาคารที่ เรียบง่าย จริงจัง แต่ เร้าใจ
แล้วตลอดเวลาเกือบๆ 3 ชมกับ The Dark Night ก็ดำเนินไปอย่างมี อรรถรส สำหรับผม

หนังคุม Tone สีน้ำเงินเข้มไว้ตลอดเรื่อง ตัดสลับกับรอยยิ้มสีแดงของ Joker ที่มาพร้อมกับความกดดันเสมอๆ . . . Heath Ledger เล่นบท Joker ในภาคนี้ได้อย่างกดดัน น่ากลัว และเลือดเย็น . . . เท่ห์เป็นที่สุด

The Dark Night
ไม่ใช่ concept แบบ Heroic แต่เป็นการนำเสนอแง่มุม+ตีความ Batman ไว้อย่างน่าสนใจ
ด้วยช่องคำถามมากมายว่า hero นั้นเก่งได้จากไหน อาวุธที่ hi-tech นั้นมาจากอะไร หามาได้อย่างไร . . . Christopher Nolan นั้นกำกับและทำการบ้านมาได้อย่างดี ประกอบกับการเล่นกับความรู้สึกลึกๆของตัวละคร ความรู้สึก ผิด ชอบ ชั่ว ดี และ ไฟปราถนา . . . ส่งผลให้ Batman ภาคนี้ดู realistic กว่าภาคอื่นๆ . . . สมจริงกว่าแม้ไม่ทั้งหมด . . . มีที่มาที่ไป . . . ผมว่า Nolan เขาวาง Batman ไว้ระหว่างโลก realistic กับ fantasy ได้พอเหมาะพอดี ซึ่ง เท่ห์ว่ะ !

ใครที่เคยดู Batman Begin จะรู้ว่า Nolan ไม่ได้สร้าง Batman มากับฉาก Action หรือ Visual Effects ที่ตื่นตาตื่นใจ . . . แต่เสนอในแบบเหตุและผล และ มุมที่หนัง Hero นั้นไม่ทำกัน . . .

Begin จึงเติมเต็มและสอดคล้องกับ The Dark Night ได้อย่างสมบูรณ์ ! (ควรดูทั้ง 2 ภาค จึงจะเห็นว่า Nolan ทำ Batman ได้ดีและแตกต่างจริงๆ สมควรที่จะได้รับคำชมและความนิยม)

แม้ว่าในบรรดา Batman ทุกภาค . . .
ผมยก Tim Burton ให้เป็นผู้กำกับอันดับ 1 ในแง่ของการทำ Batman ที่ได้กลิ่นตามบรรยากาศของ Batman Comic (เรีองแบบหม่นๆ อึดอัดๆ และบรรยากาศของ Gotham City ที่โครตเท่ห์และหาใครเทียบยาก) แต่ Nolan กับมุมมองที่แตกต่าง หมองหม่น กดดัน และการผสมความสนุกสนานแบบจริงจัง (realistic) ก็ทำให้ The Dark Night เป็นหนังที่ไม่สมควรพลาดจริงๆ

ไม่ผิดหวังเลยครับ . . .

สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือติดตามดูหนังเท่าไหร่ เหมือนๆกับผม
The Dark Night น่าจะเปลี่ยนบรรยากาศชีวิตในวันพักผ่อนให้คุณได้อย่างดีทีเดียว . . .
ไม่ต้องลังเลครับ ไม่ต้องคิดมาก ไปดูได้เลย

Why so serious?

LK T-Shirt

รอคอยมานาน ในที่สุด logo ที่อยู่บนจอ monitor ก็กระโดดลงไปอยู่บนเนื้อผ้านิ่มๆจนได้
. . . สนุกดี . . .

LK T-ShirtLK T-ShirtLK T-ShirtLK T-ShirtLK T-ShirtLK T-ShirtLK T-Shirt

SMF - Never Say Die - Single

ตามหาและรอคอยมานานกับแผ่นตัด (Audio CD) ของวงดนตรี Heavy Metal ไทยในนาม 'หิน เหล็ก ไฟ' หรือ 'Stone Metal Fire' ในอัลบั้มชุดที่ 3 'Never Say Die'

อัลบั้มเต็มหาไม่ยากเพราะมีวางขายทั่วไปตามร้านขาย CD แม้ว่าจะเริ่มหายากขึ้นแล้ว แต่แผ่นตัด หรือ แผ่น single นี้แทบจะหาไม่ได้เลย เพราะเป็นแผ่นที่ค่ายเพลงทำขึ้นมาเพื่อนำไปแจกจ่ายตามสถานีวิทยุสำหรับการ promote เท่านั้น

ด้วยความที่มันหายาก มันจึงกลายเป็นของสะสมของนักสะสมแผ่น Audio CD ไปโดยปริยาย
ผมรอคอยแผ่นนี้มายาวนานกว่าปี พึ่งจะสบโอกาส ได้เจอแผ่นนี้เข้าเหมือนโชคช่วย
และแน่นอนว่าผมไม่รีรอที่จะคว้ามาเก็บไว้ใน collection ของผม ซึ่งคาดว่าโอกาสที่จะเก็บให้ครบถ้วนทุกแผ่นจริงๆนั้น ไม่มีเลย . . .

SMFSMFSMFSMFSMFSMF

108 Music

วันอาทิตย์ โดยทั่วไปแล้ว. . .
น่าจะเป็นวันที่สบายที่สุดของสัปดาห์
น่าจะเป็นวันแห่งการพักผ่อน ทำกิจกรรมสบายๆ สำหรับทุกคนโดยเฉพาะคนวัยทำงานที่ต้องต่อสู้กับปัญหาต่างๆมาตลอดสัปดาห์

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาของผม ผ่านไปด้วยงานสอนเต็มวันในวันเสาร์ และการออกข้อสอบกลางภาคส่งให้กับทางมหาวิยาลัย เสร็จสิ้นการคิดข้อสอบ, พิมพ์ จัดรูปและหน้ากระดาษแล้ว ผมก็ถือโอกาสเคลื่อนตัวไปที่ห้าง Esplanade บนถนนรัชดาในเวลารวดเร็ว

4 โมงเย็น - 2 ทุ่ม กับการแสดงดนตรี '108 Music - Rock Dream Team' ที่จัดให้ชมฟรีภายในห้างพร้อมถ่ายทอดสดให้ชมทางโทรทัศน์

ผมเลือกไปชมการแสดงสดที่ห้าง เพราะอยากได้ยินเสียงตรงจากลำโพงโดยไม่ผ่านโทรทัศน์ และคนที่ดึงดูดให้ผมต้องออกไปดูก็ไม่ใช่ใครที่ไหน . . .
พวกเขาคือ พี่ป๊อป เดอะซํน, พี่โอ้ โอฬาร และพี่โอม ชาตรี
นักดนตรีหน้าเก่าที่ครำ่หวอดในวงการดนตรีไทยมายาวนาน

ดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ และช่วยให้เวลาสบายๆวันอาทิตย์ของผมผ่านไปด้วยความอิ่มเอมกับเสียงดนตรี Rock ในรูปแบบที่ผมโปรดปราณ . . .

108 music108 music108 music108 music108 music108 music108 music

Colorsound Wah-Wah

เสียงมันมีสีที่ไหนกัน? . . . ผมคิด
งั้น sound ทำไมมี color ได้ล่ะ?

เสียง สมควรที่จะต้องใช้หูฟังสิ
ปัดโธ่ . . . มาทำเป็นตั้งชื่อเท่ห์ๆ . . . ไม่สนใจวุ้ย !
นั่นเป็นความคิดเบื้องต้น สมัยที่ผมได้ยินชื่อ colorsound ครั้งแรก

จริงๆคือผมชอบชื่อนี้ครับ 'colorsound'
ฟังดูน่าสนใจ และอ่านง่าย ติดหูดี
และก็พอจะรู้อยู่ว่า color ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง สี
แต่น่าจะหมายถึงการปรุงแต่งเสียงมากกว่า
แต่ก็ไม่ได้สนใจ และไม่ได้คิดที่จะลอง เพราะกลัวจะเสียเงินนั่นเอง

จนเมื่อได้มีโอกาสไปร่วมงาม 'รวมพลคนเล่นก้อน' ที่จัดขึ้นเมื่อ
May 24 @ Overtone RCA ที่ผ่านมา ผมก็ต้องมนต์สเน่ห์ของเจ้าเสียงมีสีตัวนี้เข้า

ด้วยรูปร้างหน้าตาที่ อ้วน แบน บาน น่ารักน่าชัง
Logo ในแบบ 70's graphic, ชื่อชั้นของ colorsound
และเสียงที่ 'อู วะ อะ อาวววววววว' ซึ่งกว้างกว่า wah ยี่ห้ออื่นๆ
ที่ให้เสียงเพียงแค่ 'วะ อะ อาววววว' เท่านั้น . . . ก็ยิ่งทำให้ผมสนใจมันมากยิ่งขึ้น

Colorsound เป็น Wah-Wha ประเภท Hand build จาก UK
ซึ่งมีชื่อเสียงมากในยุค 70's ปัจจุบันหยุดสายการผลิตไปแล้วโดยรุ่นที่ผมได้มานี้เป็นรุ่น Limited Run สีดำ (ปรกติจะเป็นสีสันฉูดฉาด) ซึ่งถือว่าผมโชคดีที่คิดจะซื้อมันในจังหวะที่ถูกที่ถูกเวลา ไม่เช่นนั้นคงต้องหาของใช้แล้วตาม ebay เป็นแน่

ถือเป็นเพื่อนใหม่ของผมที่ได้ต้อนรับเข้ามาส่งเสียงกันอย่างสนุกสนานเป็นกันเอง

colorsound wha-whacolorsound wha-whacolorsound wha-whacolorsound wha-whacolorsound wha-wha

เจ

อาหารเจสำหรับปีนี้ . . .

J Food
J Food
J Food

Uninstall Window Messenger

Start > Run
RunDll32 advpack.dll,LaunchINFSection %windir%\inf\msmsgs.inf,BLC.Remove

LK T-Shirt

black
black
white
white
brown
brown
yellow
yellow
pink
pink
gray
gray
green
green
shmear
shmear

รวมพลคนเล่นก้อน

vthink

รวมพลคนเล่นก้อน . . .
งานพบปะสังสรรค์ของบรรดาคนรักก้อน (pedal effects) สำหรับปรุงแต่งเสียง guitar
ถูกจัดขึ้นที่ Overtone@RCA วันเสาร์ที่ 24 พค. ที่ผ่านมา
งานเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00น. ถึง 20.00น.

วันเกิดผมพอดี !

จุดประสงค์ของงานคือการมาเจอ มาพูดคุยกันเท่านั้น
แล้วก็เอา ก้อน มาดู มาชม กัน . . . ซึ่งงานออกมาใหญ่และคึกคักกว่าที่ทางทีมงานคิดมากมาย
ผมในฐานะผู้ร่วมงานก็อดยินดีกับคนจัดงานและทีมงานไม่ได้ เพราะว่า งานสนุกมาก ได้เจอคนที่รักในสิ่งเดียวกัน พูดคุย เฮฮา ถูกคอกันเหมือนเพื่อนสนิท

เสียดายที่ผมต้องกลับก่อน แต่ก็ได้รับความสุข และความประทับใจไปไม่น้อยเลยเช่นกัน

เป็นวันคล้ายวันเกิดของผมที่คึกคักดีไม่หยอก . . .

สาวติส (artist)

มีนาคมที่ผ่านมา ผมได้บันทึกเรื่องของสาวหล่อมาดเท่ห์ อย่าง Tom Anderson ไว้ที่นี่ . . .
มาถึงเดือน พฤษภาคม เดือนเกิดของผม โชคชะตาก็พาให้ผมได้ผมกับสาวอีกนางหนึ่ง
ที่ผมหลงเสน่ห์ใน ความรักศิลปะและอารมณ์ที่อ่อนไหวของเธอ ทันทีเมื่อแรกพบ

หาก Stratocaster เปรียบดังสาวสวย sexy อย่าง Malilyn Monroe...
หาก Tom Anderson เปรียบดัง สาวหล่อ ทันสมัย มาดเท่ห์ อัธยาศัยดี มีเสน่ห์...
James Tyler ก็เปรียบดัง สาวArt มาดเซอร์ ผู้เปี่ยมไปด้วยอารมณ์สุนทรีย์ น่าหลงใหล

James Tyler หรือ Jim Tyler คือชื่อของผู้ออกแบบและผลิต guitar ในชื่อของเขาเอง ซึ่งมีรากฐานการออกแบบมาจาก Stratocaster แต่ฉีกแนวออกไปจาก Fender และ Tom Anderson
ทั้งในแง่ของ visual และในแง่ของ sound

James เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นช่างซ่อม guitar ใน local LA store ระหว่างช่วงปลายยุค 70s' ถึงช่วงต้น 80s' หลังจากนั้นไม่นานนัก เขาก็เปิดร้านซ่อม guitar เป็นของตัวเอง และเริ่มมีชื่อเสียงในกลุ่มนักดนตรีอาชีพในเวลาต่อมา
vthink
James เป็นนักประดิษฐ์และทดลอง เขาชอบที่จะค้นหาและทดลองทำในสิ่งที่แตกต่าง และนั่นคือสิ่งที่นำมาซึ่งเอกลักษณ์ของ James Tyler guitar ในปัจจุบัน

ทางด้าน Visual นั้น สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คงหนีไม่พ้นเรื่องของ 'สี' (color)
ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับสีน้ำมันบนภาพ Abstract painting ที่ James เรียกมันว่า 'Shmear' นั่นเอง
James ได้ตั้งชื่อแต่ละ tone สีของ Shmear ซึ่งผมได้นำมาใช้กับ logo ของ ลูบคลำ กีต้าร์คลับ ที่นี่
LK shmear logos

ความกบฎทางความคิดในการออกแบบและผลิต guitar ของ James Tyler
นอกจากเรื่องของ 'สี' ที่โดดเด่นแล้ว...headstock, pickguard และ logo design
ยังถูกออกแบบให้แหวก แตกต่างออกไปจาก Fender อย่างชัดเจน
ซึ่งเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ใน guitar อย่าง Tom Anderson และ Suhr
vthink
ทางด้านของ Sound นั้น Tyler ให้เสียงที่มี resonant ที่กระชับ
ตอบสนองไว กังวาล เสียงอิ่ม ค้างยาว หางหรือปลายเสียงไม่แกว่ง
ในขณะที่ยังมีความหวาน และเจือไว้ด้วยกลิ่นของ Stratocaster อย่าง sexy

หากเปรียบเสียงของ Fender Stratocaster ดัง เส้นเล็กน้ำใส เหนียวนุ่ม หอมน้ำซุปกระดูกหมู สุด classic . . . James Tyler ก็เหมือนเส้นเล็กต้มยำ ทรงเครื่อง รสจัดจ้าน เสริฟเคียงไว้ด้วยถั่วลิสงป่นและชิ้นมะนาวสด ชวนน้ำลายสอ
vthink
ผมพบเธอที่หาด 'อี' หรือคุณอาจจะคุ้นเคยกับชื่อของสถานที่นี้ว่า ebay
ใช่ ! มันคือที่ที่เดียวกับที่ผมได้พบกับ สาวหล่อ Tom Anderson นางนั้น
ผมตามหาและเฝ้ารอผู้หญิงมาดเซอร์อย่างเธอมานานแสนนาน . . .

เธอผู้รักในศิลปะและมีโลกส่วนตัวที่ชัดเจน
เธอผู้เป็นตัวของตัวเอง และยากที่ใครจะเหมือน
เธอผู้ซึ่งจิตใจอ่อนไหว นุ่มนวล และพร้อมที่จะกร้าวแกร่ง
. . .
เธอ....สาวติส (Artist) ผู้มีเสน่ห์ น่าค้นหา น่าคบ
กำลังวาดลวดลาย ตวัดฝีแปรงพู่กันอยู่ที่ริมหาด ในชุดสีม่วง ลวดลายจัดจ้าน (purple shmear)

ผมตกหลุมรักเธอในทันที และไม่คิดที่จะรีรออะไรอีกต่อไป
ผมไม่เขินอาย ที่จะทำความรู้จัก และตีสนิทกับเธอด้วยเชื่อว่า เราน่าจะมีรสนิยมคล้ายๆกัน

ไม่ผิดอย่างที่คาดไว้ น้ำเสียงของเธอนุ่มนวล (alder body + rosewood fingerboard)
สงบนิ่ง น่าฟัง เธอพูดจาชัดเจน ตรงไป ตรงมา ด้วยไมตรีจิต ส่งผลให้เราเข้ากันได้ดี
และผมเชื่อว่า เราน่าจะคบหากันไปได้นาน . . .

แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมมักได้ยินคนมากกว่า 74% ที่เห็นผู้หญิงแบบหล่อนในครั้งแรกแล้ว
ให้ความเห็นว่า . . . 'ไม่ชอบ', 'ไม่งดงาม' , รู้สึก 'สกปรก' หรือรู้สึก 'น่าเกลียด น่าชัง'
ก็ด้วยความที่เธอไม่มีจริต ไม่มีมารยา ไม่ตามกระแส ไม่เลียนแบบใครนั่นกระมัง
ที่เป็นเสมือนกำแพงกั้นตัวเธอจากคนภายนอก แต่หากใครได้รู้จัก ได้ใช้เวลา
ได้สัมผัสตัวตนที่แท้จริงของเธอแล้วล่ะก็ . . .
ยากนักที่จะปฎิเสธมนต์เสน่ห์ของเธอได้ลง

มองผ่านสายตาของผม . . . James Tyler Guitar คือสาว sexy
ที่แม้แต่รุ้งงามก็ต้องหรี่แสงลง เพื่อหลีกทางให้กับความงามของหล่อน ในยามที่เธอกรีดกราย
หล่อนชวนให้ผมคิดถึงงานศิลปะในช่วง 'Drip Period' ของ Jackson Pollock ที่ร้อนแรง เข้มข้น เปี่ยมไปด้วยพลัง
Jackson Pollock
งานวาดสีน้ำมันด้วยพู่กัน ที่เน้นการทิ้งฝีแปรงไว้ให้เห็นเป็นพื้นผิวของสีน้ำมันบนผืนผ้าใบ
มีเสน่ห์ต้องมนต์ฉันใด James Tyler ก็มิได้ด้อยเสน่ห์ทั้งในด้านความงามทางภาพและเสียง ไปกว่ากันฉันนั้น สำหรับผมแล้ว James Tyler เป็นมากกว่า Guitar คุณภาพดีที่วางขายในตลาดดนตรี
ที่ผมตกหลุมรักในทันทีที่เห็น . . . เหมือนรักแรกพบ . . .

การค้นพบเนื้อคู่ที่แท้จริงนั้น จะว่าง่ายก็ไม่ใช่ ยากก็ไม่เชิง
สำหรับบางคน บางครั้ง ต้องใช้เวลาในการค้นหา
. . . ช้า-เร็ว ต่างกัน . . .

แต่ถึงแม้ว่ารักนั้นต้องใช้เวลา
ใช้ความอดทน อดออม
กว่าจะได้เธอมาครอบครอง ดังไฟปรารถนา . . .
มันก็คุ้มค่าแก่การรอคอย มิใช่เหรอ?
v74blog
v74blog
v74blog
v74blog
v74blog
v74blog
v74blog
v74blog
v74blog
v74blog