การเอ้อระเหยเป็นความผิดไหม?
ผมวางคำถามไว้พร้อมกับปล่อย mouse . . . หยิบกล้องขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างไม่รีบร้อน
ในช่วงปลายภาคการศึกษา ที่เบียดเสียดไปด้วยการส่ง project และการสอบ
หน้าที่ของอาจารย์ผู้สอนก็เข้มข้นไม่ได้น้อยไปกว่านักศึกษาแต่อย่างใด
ผมขับรถมุ่งหน้าออกนอกเมือง พลันคุยกับตัวเองไปตลอด . . .
คนขับแท๊กซี่ฝากชีวิตไว้ข้างถนนบริเวณที่คนคลาคล่ำ งานของเขาคือการส่งถ่ายผู้โดยสารจากที่หนึ่งสู่ที่หนึ่ง จากเช้าจนถึงผู้โดยสารเที่ยวสุดท้ายในตอนเย็น หากไม่ใช่คนขับรถรอบกลางคืน
อาหารข้างถนนรสจัดจ้านที่คุ้นเคยกับบุหรี่สักมวนยามอาทิตย์โพล้เพล้ ก็ส่งให้เขามีความสุขได้อย่างไม่ยากนัก
คนขับเรือจากฝั่งสู่ฝั่ง จากท่าสู่ท่า จากตลิ่งสู่ตลิ่ง
เขามองผิวน้ำที่กระเพื่อม กวาดสายตาเข้าสู่ฝั่ง เห็นสาวสวยนุ่งสั้น โคนขาของหล่อนขาวสวยพาให้ใจรัญจวน ปล่อยสายตาทอดไว้ที่ความเซ็กซี่นั้นอย่างละมุนละไม ปล่อยจินตนาการให้ล่องลอยไปอย่างไม่แยแสกับเวลาที่ไม่หยุดนิ่ง
คนขายหมูปิ้ง. . .ที่ภาระของเขาจบลงเมื่อหมูไม้สุดท้ายถูกขายออก
ในช่วงเวลาที่ลูกค้าเบาบาง เขาปล่อยใจล่องลอยไปกับควันของการปิ้งย่าง
แหงนหน้ามองฟ้าสูดอากาศแล้วสะบัดความเครียดออก
แม้บางวันจะขายได้ไม่หมด สองสามไม้สุดท้ายนั้นเขาสามารถหยุดขาย
ด้วยการกิน หรือการให้ทานกับสุนัขที่หิวโหย
นักดนตรีกลางคืน ที่งานของเขาจบลงที่โน๊ตตัวสุดท้ายของเพลงสุดท้ายหลังเที่ยงคืน
ชีวิตของพวกเขาเริ่มต้นขึ้น ณ เวลานั้น ก่อนจบลงที่ปลายตีนของผีเสื้อราตรี ณ ปลายเตียง
เช้าของวันพรุ่งนี้ ไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับพวกเขา
นักการเมือง งานของเขาคือการวาดภาพ วาดความหวัง
เขาวาดมันด้วยปากและถ้อยคำที่สวยงามต่อประชาชนเพื่อที่จะให้ตัวเขาเองได้เข้าไปนั่งหลับในสภา
แล้วเดินจากมา กลับขึ้นรถ รับแก้วไวน์แล้วเอนหลังตามอัธยาศัย งานของเขาไม่ต้องอิงเวลาเช้า-เย็น
หากแต่อิงตามวาระแห่งรัฐธรรมนูญ หรือ จบลงด้วยการชุมนุมของกลุ่มนักปฏิวัติ
เราจึงเห็นพวกเขาเอ้อระเหยกันอยู่เป็นนิจ
ใครและใครหลายคน จับจังหวะในหน้าที่แล้วระเหยไปตามวิถีทางที่แตกต่าง
แต่ชีวิตของผมโดยเฉพาะช่วงนี้ไม่เป็นอย่างนั้น. . .
ช่วงชีวิตที่ผมต้องทดแทนพระคุณบิดามารมาขณะที่เขาเจ็บป่วย. . .เวลา เป็นสิ่งที่สำคัญ
การประกอบอาชีพด้วยการเป็นอาจารย์พิเศษนั้น ข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนคือการมี'เวลา'ที่มากขึ้น
ผมต้องการมันพอๆกับเงินเลี้ยงชีพ . . .
ผมกล้าพูดเลยว่า 'เหนื่อยและท้อ' แต่ไม่เสียใจที่ชีวิตผมเดินทางมาในลักษณะนี้
ในช่วงเวลาที่งานกำลังเร่งเร้า รวมเข้ากับภาระหน้าที่ต่อบิดามารดาที่มีเป็นประจำอยู่แล้ว
ส่งผลให้ผมมองไม่เห็นเวลาที่เหลือ . . .
เวลา . . . ที่ผมใช้มันกรีดลงบนเส้นลวด 6 สาย
เวลา . . . ที่ผมใช้มันบันทึกความทรงจำผ่าน blog
เวลา . . . ที่ผมใช้มันเก็บภาพชีวิตด้วยการกด shutter
ผมเลือกที่จะไม่หลับ ถ้ายังไม่ถึงเวลาอันควร และอีกหลายครั้งที่ผมเอ้อระเหยขณะที่งานกำลังเข้มงวด ครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมบอกตัวเองขณะนั่งอยู่หลังพวงมาลัย
ไม่นานนัก ผมก็พาตัวเองมาถึงตลาดเก่าที่มีอายุถึง 100 ปี
ตลาดคลองสวนในวันทำงาน ไร้ซึ่งนักท่องเที่ยว
ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่ครู่ใหญ่ กดชัตเตอร์ บันทึกภาพอย่างเอ้อระเหย
ก่อนกลับเข้าสู่ชีวิตจริงแห่งการต่อสู้ อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง . . .
Visit v74pix for more pixs.
WangMook Pier
0
comments |
This entry was posted on September 23, 2010
บ่อยครั้งเวลาที่มีโอกาสไปจ.ชลบุรี ผมมักจะฝากท้องไว้กับร้านอาหารทะเลสดบริเวณเขาสามมุขที่ชื่อ 'วังมุข' เสมอ . . . 'อาหารทะเลสดๆ รสชาวบ้าน' ที่ไปกี่ครั้งก็ประทับใจกับรสชาติแบบชาวบ้านที่ถูกปากและความสดของอาหารทะเลที่หาทานได้ยากในกรุงเทพฯ
หลายครั้งที่ไปแล้วก็ถ่ายรูปอาหารทะเลที่ทานกลับมาเป็นที่ระลึก แต่ครั้งนี้ผมเลือกที่จะเก็บภาพบรรยากาศของชายทะเลและท่าเรือที่ติดกับร้านวังมุขกลับมาแทน
พยายามจับ Silhouette ที่น่าสนใจแล้วเล่นกับสีและบรรยากาศของท้องฟ้าด้วย Lumix GF-1 + 14-140mm + 20mm / ต่อภาพและปรับแต่งใน PS CS5 เหมือนเคย. . .
รูปเพิ่มเติม click here
หลายครั้งที่ไปแล้วก็ถ่ายรูปอาหารทะเลที่ทานกลับมาเป็นที่ระลึก แต่ครั้งนี้ผมเลือกที่จะเก็บภาพบรรยากาศของชายทะเลและท่าเรือที่ติดกับร้านวังมุขกลับมาแทน
พยายามจับ Silhouette ที่น่าสนใจแล้วเล่นกับสีและบรรยากาศของท้องฟ้าด้วย Lumix GF-1 + 14-140mm + 20mm / ต่อภาพและปรับแต่งใน PS CS5 เหมือนเคย. . .
รูปเพิ่มเติม click here