Caramel Frappucio

หย่อนตูดลงบนเก้าอี้ผ้าหนานุ่มสบาย แก้วพลาสติกใสทรงสูงในมือบรรจุกาแฟคั่วบดปั่น คาราเมลบนครีมขาวเหนือชั้นกาแฟส่งกลิ่นหอมเชิญชวน นวลไฟสีเหลืองอ่อนโอบกอดความสดชื่นในยามเช้า หุ้มห่อความอบอุ่นยามค่ำคืน แสงป้ายนีออนรูปสัญลักษณ์ของสินค้าทรงกลมสีเขียวสว่างสดใสสะดุดตา เสียงดนตรี jazz คลอเคล้าอารมณ์ สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย

รู้ทั้งรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับกาแฟรสเลิศ

รู้ทั้งรู้ว่าที่นี่เป็นสถานที่สิ้นเปลือง
รู้ทั้งรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่เงียบสงบสำหรับการนั่งทำงาน
รู้ทั้งรู้ว่าที่นี่สร้างกระแสนิยมที่คนบางกลุ่มคิดว่านั่งแล้วเท่ห์ ดูดีมีชาติตระกูล ซึ่งมันไม่เท่ห์หรอกผมก็รู้
แต่ผมก็นิยมผ่านเวลาชีวิตของผมที่นี่บ่อยครั้งเป็นเวลานานๆ ไม่ว่าฟ้าเบื้องบนจะส่องสว่าง ครึ้มฝน หรือมืดสนิท

กระแสทุนนิยมที่แทรกตัวเข้าสู่ชีวิตเมืองทำให้ “เรา” ลืมหรือหนีจากรากฐานของการใช้ชีวิตแบบพอเพียงอย่างที่พ่อตรัสไปสู่การใช้ชีวิต

ที่โอบล้อมไปด้วยอุปสงค์อุปทานจอมปลอม

. . .“เรา”หมายรวมถึงผมด้วย . . .โดยเฉพาะการใช้ชีวิตสันโดษของผมที่อเมริกา


บ่อยครั้งที่ผมเลือกกำจัดเม็ดเงินของผมที่นี่มากกว่าร้านอาหารทั่วไปทั้งๆที่รู้ว่า

ค่าครองชีพที่นั่นสูงกว่าบ้านเรามากและผมควรจะใช้จ่ายให้คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป

ทุกครั้งที่ผ่านสาขาของร้านนี้ในเมืองไทย แลเห็นจำนวนลูกค้าที่เข้าไปอุดหนุนร้านแล้ว คนหนุ่มสาวหลายคนก็คงคิดและทำไม่ต่างจากที่ผมเคยทำที่นั่น เห็นลูกค้ามากมายเข้าไปอุดหนุนเครื่องดื่มราคาสูงที่นี่แล้วผมต้องย้อนคิดถึงตัวเองสมัยอยู่อเมริกาทุกครั้งไป


มือข้างหนึ่งจับปากกาด้ามโปรดขีดเขียนภาพ ข้อความ จัดเรียงข้อมูลสำหรับงานวิทยานิพนธ์ ขณะมืออีกข้างลูบไล้ถ้วยพลาสติกใสได้ความรู้สึกถึงไอเย็น ผมหย่อนตูดลงที่นี่เนิ่นนานจนเลยเวลาของอาหารมื้อเย็นโดยไม่แยแสและไม่มีความคิดที่จะกลับบ้าน


ผมรู้ว่าผมตกอยู่ในกระแสนิยมเข้าเต็มที่ หลายครั้งที่ผมเลยเถิดคิดไปถึงสารเสพติดที่อยู่ในเครื่องดื่มซึ่งนำผมมาผ่านเวลาชีวิตและกำจัดเม็ดเงินที่นี่ อีกหลายครั้งที่ผมต้องหิ้วท้องกลับบ้านด้วยความหิวโหยแล้วจบลงที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป


“ทำไมไม่เอาเงินไปซื้ออาหารวะ” ผมคิดขณะต้มบะหมี่ด้วยความหิว


ไร้รอยยิ้มรื่นเริงบนใบหน้าเหมือนเมื่อครู่ที่ยังอยู่ในร้าน ผมรู้ดีว่าค่ากาแฟและบราวนี่เมื่อครู่ซื้ออาหารจานโตได้ซึ่งขนาดของอาหารหนึ่งจานที่นั่น สามารถเลี้ยงชีพได้ 2 มื้อสบายๆ


. . .ไม่ต้องเตรียมอาหาร . . .ไม่ต้องทำอาหารเอง . . . ไม่ต้องล้างถ้วยล้างจาน


ด้วยความที่นอนน้อย พักผ่อนไม่พอ กอรปกับการดื่มกาแฟเย็นปั่นที่เย็นจัดตัดกับใจที่ร้อนรน ใบหน้าผมเริ่มย่นเกร็ง มันเย็นจนเสียดแทงเหมือนจะเข้าไปปลิดวิญญาณ บาดลึกเข้าไปถึงกลางกระโหลก พลันความรู้สึกปวดหัวเข้าแทนที่ความหิวขณะกระเทียมเจียว และผักโรยถูกราดและโปรยลงในชามบะหมี่หน้าเตาร้อน


บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถูกคีบเข้าสู่ปากอย่างรีบร้อน ยินเสียงหัวใจเต้นอย่างชัดเจน ดังขึ้นและดังขึ้นเป็นระยะ แข่งกับเสียงเครื่องปรับอากาศตัวเก่าที่ยังทำงานตามปรกติ เหงื่อกาฬผุดขึ้นเต็มแผ่นหลัง เท้าทั้งสองเริ่มชาเหมือนจะเป็นไข้ เสียงดนตรี jazz ภายในห้องไม่สร้างบรรยากาศผ่อนคลายเหมือนในร้าน


พึมพำ “ยัง . . . ยังนอนไม่ได้ . . . เดี๋ยวแดกเสร็จต้องล้างจานอีก”

ผมนึกถึงร้านอาหารจีนราคาเท่าๆกับกาแฟเย็นปั่นแก้วนั้น นึกถึงอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพที่ควรจับจ่าย

“โอย . . . พรุ่งนี้ กูจะเลิกแดกแม่งแล้ว แพงฉิบหาย เสียเงินแล้วยังปวดหัวอีก”

นึกถึงช่วงเดินถนนผ่านร้านนี้ทุกครั้ง ผมสาบานว่าจะไม่เข้าไปกำจัดเม็ดเงินของผมที่นี่อีก

อึดใจต่อมาหลังจัดการถ้วยชามจนเรียบร้อย ร่างที่อ่อนเพลียก็ทรุดลงที่ฟูกเก่าและหมอนใบเก่ง ตั้งใจว่าจะของีบหลับสักระยะและจะตื่นขึ้นมาเขียนวิทยานิพนธ์ต่อ . . .


อาทิตย์สาดส่องยามบ่ายเพิ่มอุณหภูมิในห้องให้ร้อนและปลุกผมให้ตื่นขึ้นอีกครั้งในบ่ายวันรุ่งขึ้น ผมสะดุ้งตื่นและรีบจัดแจงทำธุระส่วนตัวก่อนออกไปพบที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ที่ห้องสมุด

ตะวันลับขอบฟ้าอย่างรวดเร็วในบ่ายนั้น เวลาตลอดช่วงบ่ายถูกใช้ไปกับการเข้าพบที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เสนอและรับฟังข้อคิดเพื่อนำกลับมาแก้ไข แล้วจากห้องสมุดมาพร้อมคำถามและมุมมองที่แตกต่างยามตะวันโพล้เพล้

ผมเดินกลับบ้านที่ถนนสายเดิม . . . สายนั้น . . . ถนนที่ร้านนั้นเปิดต้อนรับอยู่ ผมยังจำภาพของวันวานได้ดี ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ความฝัน ผมจำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกคำพูด


ขณะเดินมาถึงบริเวณร้าน ผมถอนหายใจ ก้าวเดินอย่างเชื่องช้า ยินเสียงดนตรี Jazz ลอดออกทางประตูเมื่อลูกค้าในร้านผลักบานประตูให้เปิดออก ผมยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี. . .


เสียงเพลงดังขึ้นและดังขึ้น . . .

ผมเบือนหน้าหนีหลบสายตาจากป้ายร้าน รายการเครื่องดื่ม และข้อความชวนเชื่อ
ล้วงมือลงในกระเป๋ากางเกง . . .

เอ่ยปากขึ้น . . .

“Excuse me…Can I have a venti Caramel Frappucino?”

coffee
coffee
coffee
coffee

12 Response to "Caramel Frappucio"

gravatar
dogdoy Says:

อ้าว... อิอิ

ผมไม่ได้เป็นแฟนประจำร้านแบบนี้ซักเท่าไหร่
แต่ก่อนก็ชอบนะ แหมดื่มแล้วมันเท่ห์พิลึก
แต่มันแพงรับไม่ไหว ลิ้นผมไม่สามารถรับรู้ถึงความแตกต่างกับกาแฟทั่วๆไปด้วย
ช่วงนี้ยิ่งแล้วใหญ่ พยายามต่อต้านกับสิ่งเร้าทั้งหลาย
กลยุทธทางการค้าสารพัดรูปแบบ
ดังนั้นก็.. ดื่มน้ำเปล่าๆต่อไป..

gravatar
Anonymous Says:

เอ่อผมก้อคิดว่าหลายๆคนก้อคิดอะไรอย่างนี้แต่ก็เหมือนมีอะไรบางอย่าง
ที่ดึงเราเข้าไป มันเป็นอะไรนะ ??

ผมก้อเป็นอะไรประมาณนี้แต่ไม่ใช่กับสตาร์บั๊คหรอก
ก็จะเป็นกับร้านอาหารญี่ปุ่นอะไรประมาณนี้แหละ
ประมาณเออ มันอร่อยนะ แต่ก้อไม่ได้อร่อยมากมายเท่าไหร่
ก็ตัดสินใจว่าจะไปไม่ไปกินแล้ว

แต่เอาเข้าจริง ก้อยังเข้าไปอยู่ดี
เห้อเห้อๆๆๆ

gravatar
v74 Says:

ถ้าต่อต้านสิ่งเร้าได้ถือว่าสุดยอดกระบวนท่าแล้วล่ะ Doy

จริงๆกาแฟคั่วบดทั่วไปกับ starbuck มันก็ต่างกันจริงๆถ้าทานบ่อยๆลิ้นน่าจะแยกได้นะ . . .

Arr3e
ร้านอาหารญี่ปุ่นแถวจุฬาฯ พี่ชอบไป "โกเบ"
มีตั้งแต่ lunch set ราคาหลักร้อยยันพัน
เลือกทานได้ตามอัถยาศัย พี่ไปบ่อยสมัยเป็นนิสิต และยังอยากไปอยู่ เพราะพี่ว่าราคารับได้

gravatar
จุ๊บ Says:

ถ้าต้องเสียสตางค์กับร้านนี้ก็จะเป็นพวก chocolate ร้อนหรือเย็น แล้วก็น้ำมะม่วงปั่น
ที่ไปนั่งก็เพราะเป็นที่นัดพบซะมากกว่า

เพราะไม่ใช่คอกาแฟค่ะ=)

gravatar
ShiNy JuNe Says:

ขอบคุณที่แวะไปร่วมแบ่งปันกับ shinyjune นะคะ
พึ่งตอบคอมเมนท์กลับไปเช่นกันค่ะ

gravatar
ShiNy JuNe Says:

อืมมม ลืมบอก เดี๋ยวอีกหน่อย
จะเอา STARBUCKS version Rochester, NY
มาลงมั่งค่ะ ถ่ายไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ลงซะที

gravatar
Anonymous Says:

ผมกินยี่ห้อนี้นับครั้งได้อ้ะ เสียดายกะตังค์ แต่ส่วนใหญ่ จะลองแทบจะุทุกร้านไป ตั้งแต่เจ๊ๆข้างทางแก้วละ 25 จนยัน starbuck อ้ะแหละ กินแล้วก็เหมือนกินอิ่ม นอนหลับได้ แหะๆ สิ่งที่ทำให้ผมตาสว่างจากกาแฟที่เป็นรูปธรรมสำหรับผม คงเป็นความขมมากกว่า (แต่ขมพวกแอลกอฮอล์ไม่ชอบง่ะ - - ฉะนั้นเดือนๆนึง ผมหมดค่ากาแฟ พอๆกับพวก วันศุกร์ต้องไปก๊งเหล้าอ้ะ)

กำลังจะเอา พ้อยยยเทอะ (point) ออกเสียงแบบคุณ พาทีด้วยนะครับ ^^" บัตรเครดิตไปแลกเครื่องทำกาแฟอยู่เนี่ย แต่รอแต้มเยอะๆ แล้วจะเอากระติกเก็บความร้อนด้วยเลย

จะได้ชงเองจากบ้านใส่กระติกมากินได้ทั้งวัน ประหยัดดี ฮี่ๆ

gravatar
v74 Says:

ถ้าจะชงเอง และ serious กับการชงกาแฟนิดนึง จะพบว่ามันเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร ตั้งแต่เครื่องบด เครื่อง stream เครื่องปั่น . . .

การเลือกเมล็ดกาแฟ
ส่วนผสมอื่นๆ
วิธีและจังหวะการชงและ stream อีก

ถือเป็น Art อย่างหนึ่งได้เลยทีเดียว . . . และนี่คงเป็น factors ที่แยก+แบ่งระดับร้านกาแฟต่างๆออกจากกันอย่างชัดเจน

gravatar
Anonymous Says:

ปกติถ้าที่เมืองไทยจะไม่พยายามเข้าร้านนี้ เพราะรู้สึกมันค้ากำไรเกิดควร
ถ้าที่เมกาก็เข้าบ้างครั้งคราว เวลาอยากกินกาแฟ ปกติจะสั่ง Mocca ร้อน หรือไม่ก็ Mocca Frappucino

gravatar
v74 Says:

อยู่ SF นี่ยิ่งต้องเข้าบ่อยเลยถ้าเป็นพี่นะ . . . จะ Mocca หรือ Latte

จิบกาแฟแก้วโปรดในสิ่งแวดล้อมที่หอมหวาน
ก็อากาศมันดี และ view สวยซะขนาดนั้น . . .
ยอมอดข้าวกันไปเลย

gravatar
Anonymous Says:

เขียนอ่านเพลินดีจริง นึกถึงสมัยอยู่ที่นู่นเลย chow mein หรือจะสู้ frappuchino เนอะ

gravatar
v74 Says:

Tong Product ?
ตาม link มาจากไหนวะ?

Chow mein สู้ไม่ได้เลยว่ะแม้จะมีประโยชน์และอิ่มท้องกว่า