แด่เธอ

autobahn
ครั้งนี้ . . .
เสียงดนตรีที่นำผมและคุณมาพบกัน เสียงดนตรีที่จะพาเราเข้าสู่โลกของความสวยงาม พริ้วไหว ทำลายความก้องสงัดและความน่าอึดอัดของความเงียบลง

เสียงดนตรีที่ใช้คำสั้นสั้นเพียงคำเดียวที่นิยามดนตรีรูปแบบนี้ ดนตรีที่ไพเราะ ฟังง่าย เข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย - pop - . . . เพียงแค่คุณวางแผ่น CD แผ่นนี้ลงบนถาด เมื่อมันเลื่อนกลับสู่เครื่องและทันทีที่โน๊ตตัวแรกกังวานขึ้น ผ่านโสตประสาทของคุณพลันอารมณ์แห่งความสุข หม่นเศร้า อ้างว้าง หรือเริงร่า จะปรากฏฉายชัดขึ้นตามจินตนาการพร้อมเสียงดนตรี

ผมเคยได้ยินคุณพูดว่า คุณสนใจดนตรี คุณชอบฟังเพลง คงไม่แปลกหรอกหากจะมีสักวันหนึ่งหรือสัปดาห์หนึ่ง ที่คุณจะรู้สึกเคว้งคว้างไม่รู้จะฟังเพลงอะไรดี ด้วยอารมณ์ที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศของการฟังเพลงที่แตกต่างจากที่เคยฟังเข้ามารบเร้า

บางครั้งคุณอาจจะจดจำจากโฆษณาทางวิทยุหรือโทรทัศน์ บางครั้งคุณอาจจะอ่านจากหนังสือในคอลัมน์แนะนำเพลงใหม่ บางครั้งคุณอาจจะสุ่มเลือกเอาจากหน้าปกที่ออกแบบได้สะดุดตา แต่ครั้งนี้ คุณเอ่ยถามผม....
"มีเพลงอะไรน่าสนใจแนะนำบ้างไหม?"

ผมนั่งอยู่ริมบ่อน้ำข้างสนามฟุตบอล ม้าหินทางยาวข้างตึกเรียน ใต้ต้นไม้ร่มครึ้ม อากาศกำลังเย็นสบาย เพื่อนคนอื่นๆยังคงสนุกสนานกับการเล่นฟุตบอล ขณะที่ผมปลีกมานั่งเล่นกีต้าร์โปร่งตัวเก่าที่นี่ ผมชอบพื้นที่มุมนี้ ภายใต้ร่มเงาธรรมชาติ กลิ่นของดิน และสัมผัสของไอน้ำจากบ่อดินที่นี่ สามารถตรึงผมให้นั่งอยู่ที่นี่ได้คนเดียวเป็นเวลานาน

"อยากลองฟังเพลงแบบอื่นๆบ้างน่ะค่ะ"
เสียงคำถามนั้นทำให้ผมต้องหยุดเล่นแล้วหันไปสบตาคุณ . . .
น้ำเสียงที่เอ่ยถามมาที่แม้หลับตาผมก็รู้ว่าเป็นเสียงของคุณ เสียงนั้นช่างอ่อนหวานน่าฟัง น่าหลงใหล ผมไม่รู้ว่าคุณเดินผ่านมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่คำถามของคุณทำให้ผมได้สบตากับคุณเป็นเวลานาน โดยไม่ต้องเลี่ยงหลบเหมือนทุกครั้ง ผมคุณตรงยาวถึงกลางหลัง เสียงที่อ่อนโยน และ ดวงตากลมโตบนใบหน้าที่ปราศจากสารเคมีสำหรับแต่งแต้มให้สีสรรคู่นั้น ช่างมีพลังอำนาจสะกดจิตใจผมได้อย่างชงัด

"แด่เธอ ผู้เป็นดั่งดอกไม้ ส่งกลิ่นหอมละไม เหมือนอยู่ในฝัน ...."
ผมเริ่มต้นตอบคำถามของคุณด้วยประโยคแรก จากเพลงแรก ในอัลบั้มแรก ของ Autobahn

"Autobahn ครับ . . . อัลบั้มชุดแรกที่มีชื่อเดียวกับวง น่าจะเป็นอัลบั้มที่คุณน่าจะลองฟัง น่าจะเหมาะที่สุดสำหรับการเปลี่ยนบรรยากาศการฟังเพลงของคุณ"

คุณไม่ตอบอะไร แต่รับฟังและรอคอยคำอธิบายต่อ....
"Autobahn แม้ไม่ใช่อัลบั้มที่ขายดีที่สุด หรือ มีชื่อเสียงที่สุด แต่เพลงเปิดตัวของวงที่ชื่อ "แด่เธอ" ก็หวาน ละมุนละไม เพียงพอที่จะเรียกความสนใจของผมจากดนตรี rock ที่กำลังเป็นที่นิยมของใครและใครหลายคนในวันนี้"

จริงอยู่ครับว่าอาจจะมีอัลบั้มอื่นๆที่ได้รับคำชมและมียอดขายมากมาย หรือมีสมาชิกที่มีรูปร่างหน้าตาดี น่ามอง น่าสนใจ กำลังเป็นที่จับตามอง ในขณะที่ autobahn เป็นใครมาจากไหน ผมเองก็ไม่เคยรู้มาก่อน

สมาชิกทั้ง 4 ของ Autobahn ประกอบด้วย....
อัธพันธ์ มกรานนท์ : Guitars & Vocals
สมโชค เล้าเปี่ยมทอง : Bass
โชติชู พึ่งอุดม : Keyboards & Vocals
ธรรมนูญ หะยีสาและ : Drums & Percussion

แม้ว่าจะไม่เคยได้ยินชื่อเหล่านี้มาก่อน แต่จากเพลงเปิดตัวที่ชื่อ "แด่เธอ" และชื่อของ Producer อย่าง จิรพรรณ อังศวานนท์ และ Assistant Producer อย่าง เพชร มาร์ ก็ทำให้ผมเลือกซื้ออัลบั้มนี้มาอย่างไม่ลังเลใจ หากคุณไม่แน่ใจว่าเขาคือใคร . . . ผมอยากจะบอกคุณว่า จิรพรรณ อังศวานนท์ คือหนึ่งในผีเสื้อดนตรีปีกสวยที่เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับมานานนับสิบปี

ดนตรีของ butterfly ในยุคสมัยนั้น มีความโดนเด่นและแตกต่าง อัลบั้มของ butterfly ต้องใช้ความกล้าหาญของผู้นำเสนอและฝากความหวังไว้กับการเปิดใจกว้างของผู้ฟัง แต่เมื่อกาลเวลาผ่าน butterfly ก็ได้พิสูจน์ว่าพวกเขาทำสำเร็จ จิรพรรณ อังศวานนท์ โดดเด่นด้วยฝีมือดนตรีและเป็นที่ยอมรับในงานประพันธ์เพลงไม่ด้อยกว่าผีเสื้อตัวอื่นๆ เมื่อมาทำหน้าที่ Producer ให้กับ Autobahn ก็ทำให้ผมมีความเชื่อว่า ดนตรีของ Autobahn ต้องมีอะไรที่น่าสนใจ

Autobahn เป็นวงดนตรีคุณภาพฝีมือคนไทยที่ผมอยากจะแนะนำให้คุณได้ลองฟัง ดนตรีของพวกเขาผสมผสาน jazz และ pop เข้าด้วยกันอย่างมีเสน่ห์ ลงตัว ด้วยเสียงร้องที่มีเอกลักษณ์ เสียงguitarและpiano ที่สอดประสานกลมกลืนกันอย่างสวยงาม

เพลง pop ? คุณทำหน้าเหมือนกับผิดหวังในคำตอบที่ได้ยิน อาจเป็นเพราะคุณกำลังนึกถึงเพลง pop ทั่วๆไปในตลาดดนตรีที่ถูกบริษัทใหญ่ส่งอิทธิพลครอบคลุมทั้งด้านรูปแบบการแต่งเพลงและการตลาดคุณอยากได้ยิน ได้ฟังอะไรที่แตกต่างออกไปบ้าง สายตาคุณบอกกับผมอย่างนั้น

แต่ผมอยากกระซิบบอกคุณอย่างแผ่วเบาว่า Autobahn มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและรายละเอียดของดนตรีที่น่าฟังกว่าเพลง pop ทั่วๆไปที่คุณเคยฟังตามสถานีวิทยุ

แด่เธอ.....เพลงแรกที่เปิดตัว Autobahn เป็นเพลงช้าที่หวานละมุน กลมกล่อม แฝงไว้ด้วยความเหงาที่สวยงาม เสียงดนตรีที่มีความเป็น pop ชัดเจน กับเสียงร้องนุ่มหูของ โชติชู พึ่งอุดม (ป้อม) ที่ฟังกี่ทีผมต้องหลับตาพริ้ม แล้วล่องลอยไปกับจินตนาการ ผมอยากให้คุณลองฟังเพลงนี้ดูครับ ผมเชื่อว่ามันน่าจะเปลี่ยนบรรยากาศให้คุณได้

ทนได้ทนไป เพลงช้าลำดับที่สองที่ตามมาสร้างความประทับใจ และชนะใจผมได้อย่างไม่ยากเย็น
กับคำร้องสวยงามที่เขียนโดย ฉัตรชัย ดุริยประณีต (นก เฉลียง) ทำนองโดย มือเบสของ The Innocent, เสนีย์ ฉัตรวิชัย (ปื๊ด) และเรียบเรียงโดย เพชร มาร์ ....เมื่อถูกถ่ายทอดด้วยเสียงร้องของมือกีต้าร์มากฝีมืออย่าง อัธพันธ์ มกรานนท์ (เอ็ดดี้) ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก็ส่งให้เพลงเพลงนี้ เป็นเพลงที่ผมคิดถึง ต้องร้องและเล่นเสมอ ทุกครั้งที่คิดถึง Autobahn

บอกมา และ ขอมอบบทเพลง เพลงในลำดับที่ 3 และ 4 ซึ่งได้ จิรพรรณ อังศวานนท์ เข้ามาเขียน คำร้อง ทำนองและเรียบเรียง ก็มีเสน่ห์น่าฟังและไม่ใช่เป็นเพียงแค่ tracks ที่เติมเต็มอัลบั้มแค่นั้น

หรือเพลงจังหวะสนุกๆอย่าง 'ไม่มาตามนัด' ที่แต่งและเรียบเรียงโดย สิริศักดิ์ ศิริโชตินันท์ ก็น่าจะทำให้คุณขยับตัวและเต้นเบาๆไปตามจังหวะเพลงได้

คุณพยักหน้ารับฟัง แต่คิ้วยังยกขึ้นเล็กน้อย บ่งบอกความไม่แน่ใจ . . .

เมื่อคุณกลับถึงบ้านคืนนี้ ลองเปิดเพลงที่ 7 ที่ชื่อ 'ก็นอนไม่ค่อยหลับ' คุณจะพบกับเพลงช้าอีกเพลงที่จะพาคุณล่องลอย ไปกับความเหงาเศร้าระคน จากคนเขียนเพลงมีฝีมืออย่าง เชษฐา ยารสเอก ที่คุณน่าจะพอคุ้นๆชื่อเขาอยู่บ้าง เพลงนี้ยังถูกเรียบเรียงโดย เพชร มาร์ นักดนตรีคุณภาพคนเดิมอีกเช่นกันซึ่งน่าจะรับประกันคุณภาพได้ดี

เพลงที่ 9 ซึ่งเป็นอีกเพลงที่มีเสน่ห์และกลิ่นอายของ butterfly อย่างชัดเจน ในชื่อว่า 'เธอคือเสียงเพลง' ซึ่งจะทำให้คุณต้องขยับคอไปตามจังหวะสะบัดกีต้าร์ที่น่าฟัง ถ้าหากคุณเคยฟัง butterfly คุณจะไม่แปลกใจเลยที่พบว่าเพลงเพลงนี้ถูกแต่งและเรียบเรียงโดย สุรสีห์ อิทธิกุล อีกหนึ่งในสมาชิกของ butterfly นั่นเอง อัธพันธ์ มกรานนท์ (เอ็ดดี้) ถ่ายทอดอารมณ์เพลงได้อย่างกระชับ เต็มไปด้วยพลังและมีเสน่ห์มาก เป็นอีกเพลงที่ผมอยากแนะนำให้คุณลองฟังดู

ทุกๆเพลงในอัลบั้มนี้ ใช้เวลาทำงานตั้งแต่ปี 2532-2534 บันทึกเสียงกันที่ butterfly studio และได้ จิรพรรณ อังศวานนท์ และ Clieford Coulter เป็นนักดนตรีรับเชิญ โดยมี เพชร มาร์ เป็นผู้ คิด, แต่ง, แก้ และ mixed down นั่นหมายถึงผมกำลังบอกคุณว่า จากชื่อเสียงของคนทำงานเบื้องหลังเหล่านี้ คุณสามารถซื้ออัลบั้มนี้ได้โดยไม่ต้องลังเลใจ

ถึงแม้ว่า Autobahn จะมีอัลบั้มที่สองตามมาในปีถัดมาในชื่ออัลบั้ม 'ความรัก' โดยมี producer
คนเก่งคนเดิมอย่าง จิรพรรณ อังศวานนท์ โดยอัลบั้มที่สองนั้นถูกบันทึกเสียงในช่วงปลายปี 2535
แต่ผมอยากให้คุณเริ่มต้นกับ Autobahn ในอัลบั้มแรกของพวกเขาก่อน
ถ้าหากคุณถูกใจในบทเพลงของพวกเขาเหมือนกับผม . . . เราค่อยเดินลัดเลาะไปตามรอยเท้าของพวกเขาด้วยกันต่อ

และแม้ว่า Autobahn จะมีอัลบั้มออกมาให้เราได้ฟังกันแค่ สองอัลบั้มเท่านั้น แต่มันเป็นสองอัลบั้มที่เต็มไปด้วยดนตรีที่มีคุณภาพ น่าฟังและเป็นที่ต้องการของนักสะสมในยุคต่อมาจนถึงปัจจุบัน

รอยยิ้มของคุณครั้งนั้น มีค่าและความหมายมากกว่าคำขอบคุณหรือคำพูดใดๆ ผมหวังว่าในค่ำคืนนั้นเมื่อคุณบรรจงใส่แผ่น CD ของ Autobahn เข้าสู่เครื่องเสียง เมื่อเสียงดนตรีเริ่มบรรเลงบทเพลงแรกในอัลบั้มแรก เสียงเพลง 'แด่เธอ' จะค่อยๆโอบกอดหัวใจของคุณไว้ พาคุณเข้าสู่จินตนาการที่ไร้ขอบเขต

ทุกๆค่ำคืนที่ผมได้ฟังอัลบั้ม Autobahn ไม่ว่าขณะขับรถ หรือ ขณะวางศรีษะลงที่หมอนเก่าใบเก่งในห้องนอนของผม เสียงเพลง 'แด่เธอ' จะหุ้มห่อหัวใจผมไว้ พาผมโบยบินไปกับจินตนาการที่ไร้ขอบเขต ผมหวังว่าหัวใจของเราคงได้คุยและยิ้มให้กันอีกครั้งและอีกครั้ง....ณ ที่นั้น.

autobahnautobahnautobahnautobahnautobahnautobahnautobahn
*** ประดิษฐ์เรื่อง โดย วีเจ็ดสิบสี่ วันที่ 23 สิงหาคม 2550

Decorative Arts, Silpakorn.

พฤหัสที่ 2 สิงหาที่ผ่านมา ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้รับเชิญเป็น Guest lecturer ที่สถาบันสอนศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
"มหาวิทยาลัยศิลปากร"

จากคำแนะนำของรุ่นน้องที่ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษอยู่ที่คณะ มัณฑนศิลป์ ส่งผลให้ผมได้รับคำเชิญให้ไปบรรยายเรื่อง "how to document work" กับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ภาควิชา Visual Communication ที่กำลังทำ thesis และใกล้่สำเร็จการศึกษา

"how to document work"
เราจะจัดการกับผลงานของเราอย่างไร?
หรืออีกนัยหนึ่งคือ เราจะนำเสนอผลงานทั้งหมดของเราสู่สาธารณะอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
พูดกันแบบภาษาชาวบ้านน่าจะเรียกว่า . . .
จะทำ portfolio เพื่อสมัครงาน และ/หรือ present ตัวเองต่อ public กันอย่างไรให้น่าสนใจ และให้ได้มาซึ่งงาน?

ตอบสั้นๆเหมือนจะกวนบาทา แต่ไม่มีเจตนาว่า "ผมไม่รู้"

ย้อนมองดูตัวเอง . . .
ผมพบว่า ผมเองไม่ได้มี Portfolio ที่ strong ไปกว่า designer คนอื่นๆ
แต่ชีวิตผมหลังจบการศึกษาจาก SCAD ผมพบว่าตัวเองพัวผันและวนเวียนอยู่กับการ document work เสมอๆ


ไม่ว่าจะเป็น . . .
1. งานชิ้นแรกหลังการเข้าร่วมงานกับ Blur Studio ด้วยการจัดทำ official website ให้กับ Blur ซึ่งถือเป็น online portfolio ในรูปแบบหนึ่ง

2. การจัดทำ demo reel ของ Blur Studio ซึ่งรวมถึงการคิด art direction ของ reel title ไปจนถึงการออกแบบ packaging ของ Blue demo reel

3. หลังจากย้ายกลับมาสู่บ้านเกิด (bangkok) เมื่อเข้าไปทักทายพี่ๆน้องๆสถาปัตย์จุฬาฯที่ L49 และ G49 เพื่อรับงาน freelance กลับมาทำ ก็ได้รับคำเปรยว่าอยากให้เข้ามาจัดการกับ Portfolio ที่ L49 เหมือนกัน แต่ก็แคล้วคลาดกันไป

4. เมื่อเข้าร่วมงานกับ JWT, Advertising Agency ในทีม CCU ก็ได้รับหน้าที่ให้คิดและออกแบบ DVD-Rom Interactive portfolio ของ CCU

5. รวมถึง Demo Reel ของ JWT Bangkok, Thailand เช่นกัน

6. หลังจากได้ทำงานโฆษณา TV โรลออนให้พี่ opel ผู้กำกับหนังโฆษณา ผมได้รับการว่าจ้างให้ทำ online portfolio ให้กับ vdo production house ของพี่เขา

7. หลังจากที่ พี่ตุ๊ก หัวหน้าของผมที่ CCU ได้ลาออกจาก JWT เพื่อจัดตั้ง graphic house ของตัวเองขึ้น ผมได้รับการติดต่อให้จัดทำ Online Portfolio ของ office ใหม่ของพี่ตุ๊กเช่นเคย

8. ในเวลาไล่เลี่ยกัน Pok เพื่อนรุ่นพี่ที่สถาปัตย์จุฬาฯที่สนิทกัน ได้ลาออกจากงานประจำเพื่อจัดตั้ง Landscape design studio ขึ้น ผมได้รับการติดต่อให้จัดทำ Online Portfolio (อีกแล้ว) !


9. และล่าสุดกับการรับเชิญไปบรรยายเรื่อง How to document work หรือการสร้าง Portfolio ที่มีประสิทธิภาพให้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ก็สร้างความประหลาดใจกับชะตาชีวิตของตัวเองที่วนเวียนอยู่กับ
การจัดการและการนำเสนอผลงานเหล่านี้ อย่างไม่จบ ไม่สิ้น

10. หลังบรรยาย ผมได้รับคำชวนให้สอนวิชา Portfolio Preparation ที่
คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากรด้วย (จ๊าก)

ย้อนมองดูตัวเอง . . . อีกครั้ง
ผมยังยืนยันว่า ผมเองไม่ได้มี portfolio ที่ดีเด่นหรือน่าประทับใจอะไรไปกว่า portfolio ของ designer คนอื่นๆ

หรืออาจเป็นเพราะหลังสำเร็จการศึกษา ผมใช้เวลาไปเพียงแค่ 3 วันหลังจากยื่น demo reel ให้กับ blur studio เป็นแห่งแรก ก่อนได้รับมอบตั๋วเครื่องบินให้บินไป interview ที่ Blur Studio เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน . . . แล้วผมก็ได้งานที่นั่น

ภายหลังจากย้ายกลับกรุงเทพฯ . . . Portfolio ชิ้นเดิมของผม ก็พาให้ผมได้รับโอกาสที่ดีในการร่วมงานกับ JWT และโอกาสในการได้งานชิ้นอื่นๆ

ผมยังยืนยันและคิดเสมอว่า ผมก็แค่โชคดี จังหวะดี เท่านั้น
ชีวิตมักเล่นตลกกับเราแบบนี้ บ่อยครั้ง และโชคที่ดีคงไม่อยู่คู่กับใครตลอดไป


ในวันที่หลายต่อหลายคนวิ่งหางาน ไม่มีงานทำ ผมยังโชคดีที่มีงานวิ่งเข้ามาหาเรื่อยๆ มากน้อย ตามแต่โอกาส

ในวันที่หลายคนทิ้งอาหารเหลือราคาแพงครึ่งค่อนจานที่ถูกออกแบบ
ไว้สวยงามภายในภัตตาคารหรู ใครอีกหลายคนทำได้เพียงมองจานที่ว่างเปล่า ไม่มีอาหารตกถึงท้อง

ในวันที่ใครหลายคนอยากได้เวลาว่าง ผมและอีกหลายคนกำลังอยู่กับความว่างและที่ว่าง(space)

สำหรับผม ที่ว่าง เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างสรรค์งานทุกชิ้น
ผมยังเชื่ออีกด้วยว่า ทุกสิ่งบนโลกนี้ ต้องการที่ว่าง
ที่ว่างทำหน้าที่ร่วมกับเนื้อหาอย่างมีประสิทธิภาพ บ้างเรียบง่าย บ้างโดดเด่น
ที่ว่างยังเป็นเสมือนที่พักสายตา พักหายใจ
เพียงแค่ว่า ใครจะมองเห็นและใช้ที่ว่างเหล่านั้นไปในทิศทางใดเท่านั้น
3 ชั่วโมงที่ศิลปากรครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งเนื้อหาสำคัญบนที่ว่างของผม ที่ยากจะลืมเลือน. . .

dec_arts
dec_arts
dec_arts
dec_arts
dec_arts