พฤหัสที่ 2 สิงหาที่ผ่านมา ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้รับเชิญเป็น Guest lecturer ที่สถาบันสอนศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
"มหาวิทยาลัยศิลปากร"
จากคำแนะนำของรุ่นน้องที่ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษอยู่ที่คณะ มัณฑนศิลป์ ส่งผลให้ผมได้รับคำเชิญให้ไปบรรยายเรื่อง "how to document work" กับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ภาควิชา Visual Communication ที่กำลังทำ thesis และใกล้่สำเร็จการศึกษา
"how to document work"
เราจะจัดการกับผลงานของเราอย่างไร?
หรืออีกนัยหนึ่งคือ เราจะนำเสนอผลงานทั้งหมดของเราสู่สาธารณะอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
พูดกันแบบภาษาชาวบ้านน่าจะเรียกว่า . . .
จะทำ portfolio เพื่อสมัครงาน และ/หรือ present ตัวเองต่อ public กันอย่างไรให้น่าสนใจ และให้ได้มาซึ่งงาน?
ตอบสั้นๆเหมือนจะกวนบาทา แต่ไม่มีเจตนาว่า "ผมไม่รู้"
ย้อนมองดูตัวเอง . . .
ผมพบว่า ผมเองไม่ได้มี Portfolio ที่ strong ไปกว่า designer คนอื่นๆ
แต่ชีวิตผมหลังจบการศึกษาจาก SCAD ผมพบว่าตัวเองพัวผันและวนเวียนอยู่กับการ document work เสมอๆ
ไม่ว่าจะเป็น . . .
1. งานชิ้นแรกหลังการเข้าร่วมงานกับ Blur Studio ด้วยการจัดทำ official website ให้กับ Blur ซึ่งถือเป็น online portfolio ในรูปแบบหนึ่ง
2. การจัดทำ demo reel ของ Blur Studio ซึ่งรวมถึงการคิด art direction ของ reel title ไปจนถึงการออกแบบ packaging ของ Blue demo reel
3. หลังจากย้ายกลับมาสู่บ้านเกิด (bangkok) เมื่อเข้าไปทักทายพี่ๆน้องๆสถาปัตย์จุฬาฯที่ L49 และ G49 เพื่อรับงาน freelance กลับมาทำ ก็ได้รับคำเปรยว่าอยากให้เข้ามาจัดการกับ Portfolio ที่ L49 เหมือนกัน แต่ก็แคล้วคลาดกันไป
4. เมื่อเข้าร่วมงานกับ JWT, Advertising Agency ในทีม CCU ก็ได้รับหน้าที่ให้คิดและออกแบบ DVD-Rom Interactive portfolio ของ CCU
5. รวมถึง Demo Reel ของ JWT Bangkok, Thailand เช่นกัน
6. หลังจากได้ทำงานโฆษณา TV โรลออนให้พี่ opel ผู้กำกับหนังโฆษณา ผมได้รับการว่าจ้างให้ทำ online portfolio ให้กับ vdo production house ของพี่เขา
7. หลังจากที่ พี่ตุ๊ก หัวหน้าของผมที่ CCU ได้ลาออกจาก JWT เพื่อจัดตั้ง graphic house ของตัวเองขึ้น ผมได้รับการติดต่อให้จัดทำ Online Portfolio ของ office ใหม่ของพี่ตุ๊กเช่นเคย
8. ในเวลาไล่เลี่ยกัน Pok เพื่อนรุ่นพี่ที่สถาปัตย์จุฬาฯที่สนิทกัน ได้ลาออกจากงานประจำเพื่อจัดตั้ง Landscape design studio ขึ้น ผมได้รับการติดต่อให้จัดทำ Online Portfolio (อีกแล้ว) !
9. และล่าสุดกับการรับเชิญไปบรรยายเรื่อง How to document work หรือการสร้าง Portfolio ที่มีประสิทธิภาพให้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ก็สร้างความประหลาดใจกับชะตาชีวิตของตัวเองที่วนเวียนอยู่กับ
การจัดการและการนำเสนอผลงานเหล่านี้ อย่างไม่จบ ไม่สิ้น
10. หลังบรรยาย ผมได้รับคำชวนให้สอนวิชา Portfolio Preparation ที่คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากรด้วย (จ๊าก)
ย้อนมองดูตัวเอง . . . อีกครั้ง
ผมยังยืนยันว่า ผมเองไม่ได้มี portfolio ที่ดีเด่นหรือน่าประทับใจอะไรไปกว่า portfolio ของ designer คนอื่นๆ
หรืออาจเป็นเพราะหลังสำเร็จการศึกษา ผมใช้เวลาไปเพียงแค่ 3 วันหลังจากยื่น demo reel ให้กับ blur studio เป็นแห่งแรก ก่อนได้รับมอบตั๋วเครื่องบินให้บินไป interview ที่ Blur Studio เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน . . . แล้วผมก็ได้งานที่นั่น
ภายหลังจากย้ายกลับกรุงเทพฯ . . . Portfolio ชิ้นเดิมของผม ก็พาให้ผมได้รับโอกาสที่ดีในการร่วมงานกับ JWT และโอกาสในการได้งานชิ้นอื่นๆ
ผมยังยืนยันและคิดเสมอว่า ผมก็แค่โชคดี จังหวะดี เท่านั้น
ชีวิตมักเล่นตลกกับเราแบบนี้ บ่อยครั้ง และโชคที่ดีคงไม่อยู่คู่กับใครตลอดไป
ในวันที่หลายต่อหลายคนวิ่งหางาน ไม่มีงานทำ ผมยังโชคดีที่มีงานวิ่งเข้ามาหาเรื่อยๆ มากน้อย ตามแต่โอกาส
ในวันที่หลายคนทิ้งอาหารเหลือราคาแพงครึ่งค่อนจานที่ถูกออกแบบ
ไว้สวยงามภายในภัตตาคารหรู ใครอีกหลายคนทำได้เพียงมองจานที่ว่างเปล่า ไม่มีอาหารตกถึงท้อง
ในวันที่ใครหลายคนอยากได้เวลาว่าง ผมและอีกหลายคนกำลังอยู่กับความว่างและที่ว่าง(space)
สำหรับผม ที่ว่าง เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างสรรค์งานทุกชิ้น
ผมยังเชื่ออีกด้วยว่า ทุกสิ่งบนโลกนี้ ต้องการที่ว่าง
ที่ว่างทำหน้าที่ร่วมกับเนื้อหาอย่างมีประสิทธิภาพ บ้างเรียบง่าย บ้างโดดเด่น
ที่ว่างยังเป็นเสมือนที่พักสายตา พักหายใจ
เพียงแค่ว่า ใครจะมองเห็นและใช้ที่ว่างเหล่านั้นไปในทิศทางใดเท่านั้น
3 ชั่วโมงที่ศิลปากรครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งเนื้อหาสำคัญบนที่ว่างของผม ที่ยากจะลืมเลือน. . .
7 Response to "Decorative Arts, Silpakorn."
มีข้อ 8 สองครั้ง
แล้วตกลงได้เอาของผมไปใช้หรือเปล่าครับ ?
โห เยี่ยมเลยครับ พี่เหมาะกับงานตรงนี้ล่ะมั๊งครับ แล้วพี่ชอบไหมครับ แต่ถ้าไม่ชอบก็คงไม่ทำมาหลายชิ้นขนาดนี้
เห็นรูปแล้วคิดถึงบรรยากาศเก่าๆจัง
ขอบคุณมากครับ Top สำหรับแก้คำผิดเรื่องเลข 8 , และ your demo reel
มีประโยชน์มากครับ เป็นตัวอย่างที่ดี และแตกต่าง ซึ่งพี่ว่ามันช่วยทำให้นักศึกษามองเห็นภาพได้กว้างขึ้นครับ
ยิ่งรู้ว่าเจ้าของ demo reel ทำงานที่ EA ยิ่งน่าทึ่งและเป็นแรงกระตุ้นให้กับพวกเขาได้ดีนะ . . .
- - - - -
Doy สบายดีไหม?
โอกาสหน้าถ้ามีงานพวกเขียน action script เข้ามา จะรบกวนให้ช่วยหน่อย (จ้างทำ)
เรื่องงานสอนก็สนุกดีนะ แต่ที่บอกมาน่ะ ไม่ได้ทำทุกชิ้นหรอก ก็มีแคล้วคลาดกันไปหลายครั้ง
ศิลปากร น่าเรียนดี ไม่ต่างจากสมัยก่อนที่พี่เคยไปสมัยเป็นนักเรียนมัธยม บรรยากาศยังคงขลัง และ มีพลังอยู่เสมอ
อะโหวววพี่วุด เริ่ดมากกกก (จะบอกว่าเยี่ยม ก็จะซ้ำกับพี่ dogdoy อิอิอิ)
นิ้งเองก็ชอบ design แล้วทิ้ง space เยอะ ๆ .. บางทีอธิบายให้คนอื่นฟังไม่ได้ว่า ทำไมต้องมี space คือไม่มีเหตุผลให้เค้า เค้าก็จะไม่เอาท่าเดียว แต่ตัวเองกลับรู้สึกว่า การ design ที่มี space มันทำให้ทั้งคนที่ทำงาน และคนที่ดูงาน ได้ใช้เวลาแค่เสี้ยวนาทีที่สายตาผ่าน ที่ว่าง ตรงนั้น ได้คิด หรือได้ใช้จินตนาการตัวเองบ้าง (ไม่มากก็น้อย)
พอมาอ่านของพี่วุด เหมือนได้คำตอบให้ตัวเองว่า ทำไมต้องเว้นที่ว่างไว้ในงาน design ต่าง ๆ :)
ว่าแต่ พี่วุดมาสอนนิ้งบ้างสิ อิอิอิ แหะๆๆ
ปล. วันไหนที่เปิด blog พี่วุดมา แล้วตั้งใจก่อนอ่านว่า วันนี้เนี่ยจะอ่านเฉย ๆ ไม่ comment ดีกว่า แบบว่าแอบอ่าน ประมาณนั้น .. แต่วันไหนที่ตั้งใจจะไม่ ก็ต้องมาเขียนทุกที :D
ปล.อีกอัน .. คุณพ่อพี่วุดเป็นอย่างไรบ้างคะ :)
ยินดีครับที่มาเขียน มาคุยกัน
ป๊าพี่ก็ ทรง ทรง ครับ . . . เริ่มจะอ้วนขึ้น ทานเก่งขึ้น อีก 2 weeks มีนัดไปหาหมอเพื่อ check สุขภาพและดูอาการต่อเนื่องครับ หวังว่าจะไม่มีอะไรผิดปรกติแทรกซ็อนขึ้นมาอีก
ขอบคุณที่ถามถึงครับนิ้ง
เรื่องสอนเนี่ย บอกตรงๆว่าพี่ไม่มีความมั่นใจ หรือ รู้สึกว่าเก่งและรู้จริงพอที่จะไปสอนใครเลยจริงๆ ที่ไปบรรยายก็เหมือนเอาประสบการณ์ไป share มากกว่า
แต่รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ไปศิลปากร
ต้องขอบคุณน้องจิ๊บที่มาเชิญไปบรรยายด้วย
ดูภาพแล้วคิดถึงตึก Dec ตะหงิดๆ
ไม่ได้เข้าไปนานแล้ว ล่าสุดน่าจะเป็นวันอาจารย์ศิลป์ปีที่แล้ว
ตึก Dec วันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่
(แต่ข้างในตึกได้ข่าวว่า เคยปรับปรุงครั้งใหญ่ไปบ้างแล้ว)
ที่นี่ เป็นสถานที่ที่แจงหลงเสน่ห์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ก้าวเข้ามาเลยทีเดียว
^^
เรื่องทิศทางของงาน จากที่เห็นเพื่อนหลายๆคน มันเป็นโอกาสและจังหวะจริงๆ ซึ่งหลายๆคนอีกเหมือนกันที่ก้าวมาถึงจุดที่เรียกได้ว่าลงตัว
ถ้าย้อนกลับไปดูเส้นทางเดิน กลับไม่ได้เริ่มจากสิ่งที่เป็นอยู่เลย
แต่เหมือนโอกาส และจังหวะ (รวมไปถึงความสามารถด้วยสิ) มันนำพาให้เห-มา จนได้
ตอนนี้แจงก็ยังไม่รู้ว่าจุดที่เราเลือกเอง การออกมาเป็นฟรีแลนส์ มันจะนำพาเราไปที่จุดไหน เพราะดูเหมือนมันจะยังไม่ชัดเลยแฮะ แต่ก็หวังว่าซักวันมันคงจะชัดขึ้นบ้างเหมือนกันนะค่ะ =d
อ่านตอนใกล้ๆจบ นึกถึงหนังสือ ธรรมชาติ ที่ว่าง และสถานที่ ที่อ่านค้างไว้(ไม่จบซักที)ขึ้นมาเลย ฮ่าๆ สงสัยต้องไปขุดมาอ่านอีกรอบ
ปล. ต้องเรียก อาจารย์วุฒิ แล้วสิคะ =)
joob
ชอบเรียกจุ๊บทุกที ทั้งๆที่ชื่อแจง ใช่้ไหมครับ?
Dec น่าเรียนมากครับ . . . ถ้าไม่เลือกเรียนสถาปัตย์ พี่ก็จะเลือกเรียน Dec นี่ล่ะครับ แต่ไม่รู้จะสอบเข้าได้ไหมนะ
เรื่องงาน หรือ ชีวิต...ก็คงเป็น destiny จริงๆ
ขอให้โชคดีครับแจง
อย่า้เรียกอาจารย์เลยครับ มันดูเกินตัวพี่ไปหน่อย
Post a Comment