ในปัจจุบัน กลุ่มคนไทยผู้ซึ่งมีชีวิตประจำเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ Electronic หรือสินค้า IT นั้น
น่าจะรู้จัก หรือ อย่างน้อยก็คุ้นหูกับผลิตภัณฑ์จาก Apple มากขึ้น . . . แม้แต่คนที่ไม่รู้จักเทคโนโลยีก็ยังต้องรู้สึกคุ้นหูกันบ้าง
ในสมัยก่อน Apple computer เป็นอุปกรณ์ electronic ที่ใช้กันในกลุ่มของคนทำงาน graphic เสียเป็นส่วนใหญ่ ชื่อของ Apple จึงอาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายอย่างในทุกวันนี้ . . .
ผมเองเริ่มต้นใช้งาน Computer ก็เริ่มต้นกับ Windows เหมือนคนส่วนใหญ่
Apple มีราคาที่แพงและด้วยความรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของงาน graphic เป็นหลัก
(3DMax, Maya, AutoCAD ไม่มีใน OS9 หรือแม้แต่ OSX ในช่วงแรก ในขณะที่ Adobe และ Macromedia นั้นสามารถ run ได้ทั้งใน MAC และ PC)
ผมจึงไม่เคยคิดที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ของ Apple มาใช้เลย . . .
จนกระทั่งมีโอกาสได้ไปเรียนต่อทางด้าน Computer Art ที่ SCAD
ผมเองจึงมีโอกาสได้ใช้งานทั้ง Windows และ Mac OS ไปพร้อมๆกัน ได้จับเครื่อง MAC บ่อยขึ้น
แต่ถึงกระนั้น . . . ผมก็ยังรู้สึกว่า Apple ก็ยังเข้าถึงกลุ่ม user ทั่วไปได้ยากอยู่ดี
ในช่วงเวลาต่อมา....การมาถึงของ iPod เครื่องเล่น mp3 ที่เขย่าวงการ Gadget และวงการเพลงได้อย่างจัง ส่งผลให้ Apple เริ่มเข้าถึงกลุ่มคนทั่วไปได้มากขึ้น . . . โดย Apple ยอมให้ iPod นั้นสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ PC (Windows) ได้ด้วย โดยไม่ต้องใช้เครื่อง Apple computer แต่อย่างใด
นั่นเป็น step ที่ผมรู้สึกว่า Apple กำลังแทรกซึมเข้าสู่ user ทั่วไปได้มากขึ้น
ผ่านทางเสียงเพลง และเป็นการลบภาพของสินค้าสำหรับ Graphic people ได้อย่างดี
การพัฒนาของ iPod version แล้ว version เล่า
ส่งผลให้คนเริ่มคุ้นเคยกับ Apple มากยิ่งขึ้น . . . เริ่มสนใจ เริ่มเข้าใจ และกล้าที่จะเรียนรู้
โดย Apple จะเน้นเรื่องของ User Interface ที่ใช้ง่ายเป็น main concept มาตั้งแต่แรก
จาก iPod สู่ iPhone ที่สะเทือนวงการโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้าแบบที่น้อยคนนักจะคาดการณ์ได้
ปรากฏการณ์ iPhone + ยอดขายที่มากมาย + หุ้นที่พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัวในระยะเวลาอันสั้น
ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จของทีมงาน Apple ทุกคนได้อย่างดี
ปรากฏการณ์การต่อแถวเข้าคิว เพื่อจับจองซื้อ Smart phone ที่
มีผู้คลั่งใคล้ไปกางเต๊นท์นอนรอหน้าร้าน Apple เพื่อที่จะได้ซื้อผลิตภัณฑ์จาก Apple เป็นคนแรก
ก็แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนที่ใช้สินค้าไอทีได้อย่างดี และคนไทยเองก็เป็นไปกับเขาด้วยเช่นกัน . . .
ช่วง iphone4 เปิดขายวันแรกนั้น มีการเข้าคิวกันมากมายจนถึงขนาด
เหยียบกัน เบียดเสียดกันจนเป็นลม มีเรื่องชกต่อยกันมาก็มี
ยิ่งนานวัน Apple ก็ยิ่งทวีความคลั่งไคล้ให้กับบรรดาแฟนๆได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อออกสินค้ามาใหม่ ก็มีคนที่พร้อมจะจ่ายเงินออกจากกระเป๋าเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ของ
Apple และยิ่งได้มาใช้ก่อน ก็ยิ่งมีความรัก ความภูมิใจต่อ Brand มากยิ่งขึ้น
การแทรกซึมของ Apple ไม่ได้เป็นแค่เพียงกับบรรดาลูกค้าเท่านั้น
แม้กระทั่งพนักงานของ Apple เองก็ถูกปลูกฝังให้รักใน Brand อย่างมาก
เมื่อได้สวมเสื้อของ Apple พนักงานหลายคนมีความภูมิใจที่ได้อธิบาย
และนำเสนอสินค้าของ Apple ให้กับลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้าน
ประหนึ่งว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของตัวเอง . . .
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าทึ่ง และ Brand อื่นๆยังไม่สามารถทำได้เทียบเท่า
แม้ว่าจะสามารถออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันออกมาได้
แต่ก็ไม่สามารถสร้างความรู้สึกภูมิใจ คลั่งไคล้ ผูกพันธ์ ได้อย่างที่ Apple ทำได้
ผมเอง จนถึงปัจจุบันก็ยังคงใช้ PC และ Windows อยู่ไม่เคยเปลี่ยน
ไม่ได้ Anti-Apple แต่ยังรู้สึกว่า คุ้นเคยและถนัดกับ Windows มากกว่า
(แม้ว่าเวลาออกไปสอน Graphic Design จะใช้ MAC สอนก็ตาม)
แต่สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภท Gadget แล้ว ผมเองก็ยอมรับและชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของ Apple เหมือนอีกหลายๆคนเช่นกัน
และแม้ว่าผมจะไม่ได้คลั่งไคล้ สะสม ถึงขนาดว่ามีสินค้าของ Apple ทุกประเภท
แต่เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมา...ผมก็ใช้เวลาไปกว่า 5 ชม.ในการ
ต่อคิวเพื่อซื้อ iPad2 จากร้าน i-Studio ที่ Seacon Square เช่นกัน
เล่นเอาแทบจะเสียงานเสียธุระกันไปเลย . . .
บางที...ผมอาจจะกำลังถูก Apple แทรกซึมเข้ามาในชีวิต ทีละเล็กทีละน้อยโดยไม่รู้ตัว
เหมือนผู้ที่ใช้ Apple product คนอื่นๆทั่วไปคิดและรู้สึก
อยากจะรู้ใจตัวเองเหมือนกันว่าการมาถึงของ iPhone 5 และ/หรือ iPad 3 ในปีหน้านั้น
ตัวเองจะรู้สึกและคลั่งใคล้กับผลิตภัณฑ์ของ Apple มากน้อยขนาดไหน . . .
No Response to "iPad2"
Post a Comment