Disc jockey

v74blog
สมัยก่อนผมเป็นคนชอบฟังวิทยุ
โดยเฉพาะเวลานั่งเขียนแบบ, ตัด section, วาด perspective
ทำ project ส่งงานที่คณะ . . .

ด้วยความที่วิทยุนั้น มีคนคอยเปิดเพลงและพูดคุยให้เราฟังไปตลอด
ซึ่งความรู้สึกจะแตกต่างจากการฟังเพลงด้วยการเปิดเทป หรือ CD
เพราะแบบนั้นผมจะตั้งใจฟัง รู้ลำดับของเพลงต่อไป . . . เมื่อฟังจนครบ album
แล้วถ้าไม่ฟังซ้ำก็ต้องไปเปลี่ยนเทป

ไม่ว่าเทป หรือ แผ่น CD ในสมัยก่อนถือว่าแพงมากแล้ว สำหรับเด็กวัยเรียนที่ยังไม่มีรายได้
มีเพียงค่าขนมรายวันที่ต้องอดออมเป็นเวลานานกว่าจะซื้อ CD ได้สักแผ่น . . .

แต่วิทยุนั้นฟังเรื่อยๆ สบายๆ ไม่ serious ไม่เสียเงิน
ตั้งใจฟังบ้าง ไม่ตั้งใจฟังบ้าง เพลงต่อไปเป็นเพลงอะไรก็ไม่รู้ เปิดมาก็ฟังได้หมด
เพราะจิตใจไม่ได้จดจ่ออยู่กับการฟังดนตรีเป็นสำคัญ ทำงานไปแล้วก็ฟังเพลง ฟังเรื่องเล่า ไปด้วย
สำหรับผมแล้วมันดีกว่าการนั่งทำงานเงียบๆเป็นไหนๆ . . .

คุณหมึก วิโรจน์ (ควันธรรม)
คุณเดือนเพ็ญ (สีหรัตน์)
คุณวาสนา วีระชาติพลี
คุณเอ็ดดี้ พิทยากร ลีลาพัฒน์
คุณอารี แท่นคำ
คุณวิฑูร วทัญญู

และอีกหลายคน หลายคลื่น
สเน่ห์ของคนเปิดเพลงในสมัยก่อนนั้น คือ การเล่าเรื่อง . . .
ทั้งจากประสบการณ์ของตัวเอง หรือจากข้อมูลที่ทำการบ้านมาอย่างดี
ทำให้เราได้รู้เกล็ดเล็กเกล็ดน้อย หรือ เรื่องเล่าที่น่าสนใจไปพร้อมๆกับการได้ฟังเพลง
และหลายครั้งที่ผมอยากฟังเรื่องเล่าจากปากของดีเจ มากกว่าการเปิดเพลง

เวลาผ่านไป วัยล่วงเลย พฤติกรรมก็เปลี่ยนไปด้วย
เทคโนโลยีก้าวล้ำไปไกล และมีช่องทางให้เราสื่อสารกันได้สะดวกรวดเร็วกว่าสมัยก่อนหลายเท่าตัว
การหาเพลงฟังก็ทำได้ง่ายและประหยัด สถานีวิทยุก็มีทางเลือกที่หลากหลาย

ในขณะที่โลกเจริญก้าวหน้า ผมกลับรู้สึกว่า คลื่นวิทยุและคนเปิดเพลงในปัจจุบัน กลับไม่น่าติดตามเหมือนสมัยก่อน
สเน่ห์ของคนเปิดเพลงและเรื่องเล่าที่น่าติดตามมันขาดหายไป
จะบอกว่าคนเปิดเพลงยุคนี้ดีไม่เท่าสมัยก่อนก็คงไม่ได้ เพราะ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป
และวัยของผมอาจจะไม่เหมาะกับคนเปิดเพลงในยุคใหม่ก็เป็นได้
จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผมพบว่า ผมไม่ฟังวิทยุเหมือนเคย

แม้ว่าผมเริ่มต้นการฟังวิทยุด้วยเหตุผลของการ 'ไม่ตั้งใจ'ฟัง . . .
แต่ผมพบว่าความไม่ตั้งใจเหล่านั้น ถูกชักนำและเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็น 'ความตั้งใจ' อย่างไม่รู้ตัว
ก็ด้วยสเน่ห์ของคนเปิดเพลงนั่นเองที่ทำให้ความไม่ตั้งใจเหล่านั้น . . . น่ารื่นรมย์

Lamy Safari Alpine White

v74blogv74blog Lamy Alpine White ตามที่ผมเข้าใจคือ ไม่ใช่สี limited เพราะเป็นสีที่ผลิตออกมาขายอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่มีรายละเอียดแตกต่างกันนิดๆหน่อย จนเรียกเป็น Generation ขึ้น

Alpine white ของผมด้ามนี้เป็น Gen หลังๆแล้ว เข้าใจว่าเป็นช่วง 1990's . . . เพราะ Nib ก็เป็นรุ่นใหม่แล้ว และที่ท้ายปากกาก็ไม่มีตัว W ที่สื่อถึง West เหมือน Gen แรกๆ . . . แต่ด้วยความที่เป็น New old stock ก็ควรค่าที่จะเก็บไว้

สมัยผมเป็นนิสิต ผมจำได้ว่า Alpine white เป็นสีที่ได้รับความนิยมมากๆ ทั้งชายและหญิง ต่างก็ซื้อมาใช้กัน ด้วยความที่มันสวย สะอาด และ classic ใช้กันเยอะจนทำให้ผมเลี่ยงไปใช้สีเหลือง clip ดำแทน เพราะคิดว่ามันสดใส และแตกต่าง . . .

แต่ผลก็คือ ไม่ว่าจะสีอะไร ก็มีคนใช้มากมายทั้งนั้น ด้วยความที่มันถูกออกแบบมาอย่างลงตัว สวยงาม เบาและเขียนลื่้นมือ น่าเสียดายที่ผมไม่ได้คิดจะสะสมไว้ในสมัยนั้น จึงทำให้ต้องมาตามหา ตามเก็บกันในช่วงที่เลิกผลิตไปแล้ว

ผิว(body)ขาว
ผม(clip)ดำ
หัว(cap)ดำ

สวยงามครับ :)
Agree?

2D Classical Animation Studio at SCAD

v74blog
ช่วงปีแรกของปริญญาโทของคณะ Computer Art ที่ SCAD สมัยที่ผมไปเรียนนั้น
มีวิชา studio วิชานึง ที่นักเรียนต้องจับดินสอมากกว่า mouse
เป็นวิชาที่นักศึกษาภาค 3D และ Motion graphics ต้องลงเรียน

ผมกำลังพูดถึงวิชา 2D Classical Animation . . . ซึ่งว่าด้วยการวาด วาด และวาด นั่นเอง

Classical animation เป็นการสร้างภาพเคลื่อนไหวด้วยการวาดภาพแบบ frame by frame
ผู้วาดจำเป็นต้องใช้โต๊ะที่มีไฟส่องขึ้นมา หรือเรียกว่าโต๊ะ Draft ไฟ เพื่อจะทำให้เห็นภาพและสัดส่วนของ frame ก่อนหน้าที่เรากำลังวาดอยู่ ทำให้เราสามารถกำหนดจังหวะของความเคลื่อนไหวใน frame ถัดไปได้อย่างแม่นยำ ไม่มั่ว . . .

สมัยที่ผมเรียนนั้น media ที่ใช้บันทึก Animation ยังเป็นตลับเทป VHS ม้วนใหญ่
ซึ่งความคุณภาพ และ สะดวกสบายยังไม่เทียบเท่ากับยุค digital แบบในปัจจุบัน

การทำงานนั้นไม่มีเทคนิค อะไรพิศดาร มีเพียงแต่ใจ และความอดทนของการฝึกฝนเท่านั้น

สมัยนั้นระบบโทรทัศน์แบบ Analog ของ USA คือระบบ NTSC (National Television System Committee)
ซึ่ง 1 วินาทีจะประกอบไปด้วย frame ถึง 30 frames (29.97)
นั่นหมายความว่า Animation 1 วินาทีจะต้องประกอบไปด้วยภาพ 30 ภาพฉายต่อเนื่องกัน

ถ้าคิดจะทำ animation 1 นาที (60 วินาที) ก็เท่ากับ 60 x 30 = 1800 ภาพ
วาด วาด แล้วก็วาด . . . คือทางเดียวที่ต้องสู้ไป
วาดลงกระดาษเสร็จแล้วก็ถ่ายรูปทีละภาพเพื่อนำภาพถ่ายนั้นเข้าไป run ใน software ที่สามารถตัดต่อและใส่เสียงเข้าไปได้

ความยากไม่ใช่เพียงแค่ต้องใช้เวลาและใช้ใจสู้ แต่การกำหนด key frame และการวาด inbetween frames จำนวนมากมายเพื่อให้ animation ออกมา smooth นั้น ยากที่สุด
ต้องอาศัยการฝึกฝน ไม่ใช่แค่ 1 เทอมแต่อาจใช้เวลายาวนานเป็นปีในการสะสม experience . . . เพราะมันไม่มีทางลัด ไม่มี short cut หรือ filter อะไรในการอำนวยความสะดวก
ถือเป็นวิชาที่ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้และเข้าใจ stroyboard, animatic, layout, timing และ movement ได้เป็นอย่างดี

Santa Monica 2003

v74blog Santa Monica Beach ปี 2003 ถ่ายไว้สมัยที่ยังทำงานเป็น motion graphics designer อยู่ที่นั่น Apartment ที่พักก็อยู่ไม่ไกลจาก beach เท่าไหร่ อากาศดีมากตลอดวัน ตลอดปี . . . ไม่ต้องใช้ Air condition ก็นอนได้สบายทุกคืน เนื่องจากลมพัดจากทะเลเข้ามาทำให้เย็นสบายมาก

เดินนิดเดียวก็ถึง 3rd St promanade . . . เดินต่ออีกนิดก็ถึง beach รถก็ไม่ค่อยติด อากาศก็ดี ทำงานรายได้สูง คุณภาพชีวิตดีมากๆ

บ่อยครั้งที่ผมคิดถึงบรรยากาศของการใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น โดยเฉพาะเวลาที่เห็นสภาพของเมืองกรุงและคนกรุงที่วุ่นวายสับสนอย่างกรุงเทพฯทุกวันนี้ . . .
ผมชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วกับคำพูดที่ว่า 'อยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเกิด'

24

v74blog
ปรกติผมเป็นคนที่ไม่เคยสนใจ หรือติดตามดู TV series เลย
ด้วยความที่หนังมีความยาวและต้องใช้เวลาในการดูที่นาน
แค่หนังโรง 2-3 ชม. ก็ยังแทบจะไม่มีโอกาสได้เข้าไปดู ดังนั้น TV Series นี่ไม่ต้องพูดถึง
แต่ช่วงที่ผ่านมาตัดสินใจทดลองดูเป็นครั้งแรก กับ TV series ชื่อสั้นๆว่า '24'

24 มีทั้งหมด 8 ภาคด้วยกัน โดยภาคแรกนั้นเริ่มออกอากาศในปี 2001
ผลิตโดย Fox Network และเริ่มฉายใน USA ก่อนที่จะขายลิขสิทธิ์ให้กับประเทศอื่นๆทั่วโลก
ในไทยต้องดูช่อง AXN

24 เป็นหนังใน style ที่ใครๆก็คุ้นเคย คือ ตำรวจจับผู้ร้าย
ซึ่งมองผ่านๆก็ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ . . . และคุ้นๆว่าผมเคยเห็นผ่านตาในจอ TV มาแล้ว สมัยไปเรียนต่อที่ USA
แต่ก็เปลี่ยนช่อง มองผ่านไปอย่างไม่สนใจ

ผ่านไปสิบกว่าปี มาทดลองดู ก็พบว่า . . . หยุดแทบไม่ได้ !

หนังดำเนินเรื่องด้วย concept ของเวลาจริง . . .
โดยแต่ละนาทีในเวลาออกอากาศนั้นตรงกับแต่ละนาทีในชีวิตของตัวละครเช่นกัน
"ตามเวลาจริง"

รวดเร็ว ตื่นเต้น ลุ้น ระทึก ซ้อนทับ หักมุม และติดงอมแงม . . .
8 ภาค > ภาคละ 6 แผ่น > แผ่นละ 4 ชม.

ใครยังไม่ได้ดูและคิดจะดูก็จัดสรรเวลาว่างให้ดีครับ