ผมเป็นคนขี้เหงา และว้าเหว่ และเพราะรู้ว่าเป็นคนแบบนั้นจึงพยายามซ่อนมันไว้ตามที่ต่างๆรอบตัว
บ้างโยนมันไว้ในแก้วเบียร์เย็น
บ้างปล่อยมันไว้ที่ปลายนิ้วขณะกรีดลงบนเส้นลวดทั้ง 6 สาย
บ้างยัดมันลงกางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง
บ้างกลืนไว้กับถ้อยคำโปกฮา ในวงสนทนากับมิตรสหาย
บ้างทอดไว้ที่ปลายสายตาไร้จุดสิ้นสุดหลังพวงมาลัย
และบ่อยครั้งการประพฤติตนในลักษณะ แหกคอก จากสังคมก็เป็นการบรรเทาความว้าเหว่ลงได้เช่นกัน
การเขียนพรรณาลงบนกระดาษว่างเปล่า หรือพื้นที่กึ่งส่วนตัวเช่น blogger.com เป็นการดิ้นรนอีกทางหนึ่งให้พ้นจากสภาพว้าเหว่ เหี่ยวเฉาในจิตใจตนเอง
หากผู้อ่าน (visitors) จะกรุณาอ่านและลงความเห็น (comment)
ย่อมถือว่าได้บุญ ได้กุศลอย่างมาก เพราะนั่นหมายถึงการหยิบยื่นความสุข เข้ามาแทนช่องว่างของความว้าเหว่
11 Response to "ช่องว่าง"
ผมเพิ่งได้อ่านหนังสือเข็มทิศชีวิตของคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง(อ่านยังไม่จบนะครับ)
มีบทนึงที่เค้าบอกเรื่องธรรมะเกี่ยวกับเรื่องของความคิดครับ
คือทุกอย่าง ทั้งสุขทั้งทุกข์ เกิดขึ้นที่ความคิดเราทั้งนั้นเลย
เราไม่รู้เท่าทันความคิดตัวเอง ก็เลยเกิดทุกข์ขึ้นมา
เค้ายกตัวอย่างว่า เราเจ็บป่วย มันป่วยที่กาย แต่ทำไมใจเราต้องไปป่วยตามไปด้วย? มันแยกกันนะ (อันนี้ผมว่าจริงมากๆ)
พี่ว่างๆเหงาๆ ลองนั่งสมาธิ รู้ลมหายใจเข้าออกของตัวเองดูทุกๆจังหวะสิครับ ดูให้รู้กระทั้งหายใจสั้นหรือหายใจยาว
แล้วพี่จะไม่เหงาครับ เพราะมีลมหายใจอยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลา
(ทำเป็นพูดดี ตัวผมก็ยังทำไม่ได้หรอกครับ แหะๆๆ)
ชีวิตคนเรามันก็ย่อมมีทั้งสุข เศร้า ทุกข์ และเหงา ก็ขึ้นอยู่กับว่าคนเราจะแสดงมันออกมามากน้อยแค่ไหน ชั้นก็เป็นคนหนึ่งที่เรืยกว่าเป็นคนขี้เหงา แต่ว่าชั้นก็ไม่ยอมให้ความเหงาและว้าเหว่มาครอบงำตัวชั้นหรอก อย่างน้อยชั้นก็พยายามนึกถึงลูกน้อยซึ่งกำลังจะลืมตาดูโลกอีกไม่นานนี้ มันก็เป็นการสร้างความสุขเล็กๆในจิตใจชั้นได้อีกทางหนึ่งเหมือนกัน .......... นานา
ขอบคุณทั้ง 2 comments ที่ช่วยเข้ามาเติมช่องว่างให้ครับ
เจออันนี้เข้าไป ไหลไม่เป็นเลย เอาเป็นว่าถ้าเหงาก็ จับกีตาร์มาเล่น จับกล้องมาถ่าย จับหนังสือมาอ่าน จับ เกมส์มาเล่น สุดท้ายขึ้นเตียงไปนอน ละกัน ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เจ้าค่า คนขี้เหงา..
แล้วคุณพ่อพี่วุด แข็งแรงดีขึ้นหรือยังคะ
ปล.ขอโทษที่ คอมเมนท์นอกเรื่องนะคะ ยังเอาใจช่วยค่า
ดีขึ้นนิดหน่อยครับ แต่ยังไม่ดีพอ ยังอยู่ รพ ครับ . . . อาการยังไม่ดีพอที่จะกลับบ้านได้เลย ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจ
(^________^)
ฮั่นแน่...
ยิ้มแล้วลืมเหงาไปได้แป๊ปนึงใช่มั้ยฮ้า
นิ้งมักจะเหงาเวลาที่รู้สึกว่าเหนื่อย รู้สึกว่าเพลีย แต่แบบทำไมยังมีแต่คนต่อว่าต่อขานกันจังเลย โดยที่บางที่เค้าไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นเรากำลังอยู่ในอารมณ์ที่แบบว่า เหนื่อยเหลือเกินแล้วอะไรเงี้ย
หรือไม่อีกทีก็คือตอนฝนตกฟ้ามืด ๆ อากาศเย็น ๆ แล้วเปิดเพลงเบา ๆ .. อยู่ ๆ มันก็เหงาซะอย่างงั้น :)
วิธีแก้ของนิ้งคือ .... นอน (มันซะเลย อิอิอิ)
ว้าเหว่ เป็นนิจค่ะ แต่ยังหาทางออกเหมือนคุณ V74 ไม่ได้ค่ะ ทางเดียวคือ กลับบ้าน "กอดหน่อย"
My mom หรือไม่ก็ My dog ช่วยได้มาก
จากเวป หลฟ. อิอิ
ผมคอยเอาใจช่วยนะครับคุณ V74 ผมเองก็กำลังพยายามทะลายความเหงาของตัวเองเหมือนกัน ก็ใช้วิธีสะบัดเส้นสาย (เล่นกีตาร์) กับขยายเส้นเสียง (ร้องเพลง )เอาน่ะครับ
ส่วนอีกวิธีที่ใช้ได้ดีเหมือนกันก็คือ แบบที่คุณ Dogdoy พูดน่ะหล่ะครับ ก็คือ "การตามลมหายใจ"ครับ มีหลายท่านพูดถึงเรื่องนี้เยอะเลยทั้ง ท่าน พุทธทาสภิกขุ ท่าน ติช นัท ฮันท์ ท่านกฤษณะมูรติ และอีกมากมายลองหาหนังสืออ่านดูครับก็เพลินๆดีทำให้หายเหงาอีกทั้งได้แง่คิดดีๆอีกครับ ^_^
ขอบคุณ All comments ที่ช่วยเข้ามาเติมช่องว่างให้ครับ
Post a Comment