เห็นใน profile ของ blogger มีให้กรอกข้อมูลเกี่ยวกับผู้เขียน ซึ่งหนึงในหัวข้อต่างๆก็คือ favorite books
แน่นอนว่าทุกๆคนคงมีหนังสือเล่มโปรดกันคนละหลายๆเล่ม....
และนี่คือหนึ่งในหนังสือเล่มโปรดของผม
Ray Gun - Out of Control
by Marvin Scott Jarrett, Dean Kuipers
Ray Gun เป็นเหมือนหนังสือบังคับที่ graphic designers หลายๆคนต้องมี . . .
เป็นหนังสือที่มี David Carson เป็นหัวหอกของการทำ Art Direction ซึ่งน้อยคนที่ทำงานสาย graphic จะไม่รู้จัก
Ray Gun ได้ set new standard ให้กับงาน graphic ในลักษณะที่เรียกว่า "แหกกฎ" หรือ "Deconstruction" ซึ่งทำให้วงการ graphic design มีสีสันขึ้นมากจริงๆ
นอกจากนี้ Ray Gun ยังจุดประกายให้ผมหันมาสนใจ Graphic Design อย่างจริงจัง เพราะก่อนหน้านั้นผมเรียนมาทางสาย Landscape Architecrue ซึ่งแทบไม่มีโอกาสติดตามงานสาย graphic เท่าไหร่
นับเป็นจังหวะที่ดีช่วงที่ผมไปเรียนที่ SCAD ที่มีโอกาสได้เข้าไปฟังบรรยายจาก David Carson ในช่วงปี 2003 ซึ่งผมก็ไม่พลาดที่จะให้เขาเขียน+เซ็นลงหนังสือ Ray Gun ของผมไว้เป็นที่ระลึก
(เซ็นทีนึงลากซะ 2 หน้า.....ok ครับพี่.....พี่แจ๋วมาก).
เป็นสุดยอด Graphic Designer คนนึงในดวงใจที่แม้ว่าในยุคต่อมา David Carson พยายามเข้ามาทำงานในสาย Motion Graphics ด้วยแต่ไม่ค่อยเป็นที่กล่าวถึงนัก.......แต่งาน Print ของเขายังคงมีเสน่ห์ชวนติดตามได้เสมอโดยไมจำเป็นต้องใช้ movement ใดๆ
เดชไอ้ด้วน
5
comments |
This entry was posted on May 25, 2005
หลังจากจบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จุฬาฯ ไปแล้วผมไม่มีโอกาสได้กลับไปดูละครสถาปัตย์จุฬาฯอีกเลย
พึ่งจะมามีโอกาสกลับมาดูอีกครั้งก็ปีนี้เอง กับเรื่อง "เดชไอ้ด้วน"
ผมไปที่โรงละครทั้งๆที่ไม่มีบัตร เนื่องจากบัตรได้ถูกขายหมดไปแล้ว แต่ด้วยความหวังที่ว่าจะมีคน cancel หรือมีการเพิ่มเก้าอี้เสริม ผมจึงเดินทางไปรอ และผมพบว่าไม่ผิดหวังจริงๆกับการติดสินใจครั้งนี้
ในที่สุดผมได้ตั๋วเข้าไปชม..........
เช่นเดียวกับทุกๆปี ที่จะหยิบยก theme ขึ้นมาจากหนังสือ หรือ นิยาย ที่รุ่นนั้นๆชื่นชอบ.....ไม่ว่าจะเป็น จีน ฝรั่ง หรือละครไทยๆ ก็มีมาแล้วทั้งนั้น สำหรับ เดชไอ้ด้วน...นิยายกำลังภายในที่โด่งดังในหน้าหนังสือที่ถูกหยิบยกมาเป็นละครสบายๆ style ถาปัดจุฬาในปีนี้ จึงไม่เป็นที่แปลกใจสำหรับผมเท่าไหร่เพราะ ซื่อลี่ และ ชอลิ้วเฮียง ก็เคยผ่านตามาแล้วจากรุ่นพี่รุ่นน้องรุ่นใกล้ๆกันกับผม
แต่หลังจากที่ได้เข้าไปชม เดชไอ้ด้วน...ผมถึงกับต้องอึ้งไป...อึ้งไปกับความตั้งใจทำงานของน้องๆที่ทำละคร, กับพี่เก่าที่ยังแวะเวียนมาให้กำลังใจเสมอๆ และบรรยากาศเก่าๆที่ผมเคยผ่านมา.
เดชไอ้ด้วนไม่ทำให้ผมผิดหวังแม้แต่น้อย เพราะนอกจากทำให้ผมได้เห็นถึง ละคร style ถาปัด และมุขตลกเรียกเสียงฮาแบบถาปัดการละครที่บางคนอาจจะเบื่อไปแล้ว ผมยังได้เห็นถึง production ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้มืออาชีพเลยทีเดียว . . . การฝึกซ้อมการแสดงของนักแสดงทุกๆคน + การเต้นประกอบเพลง + เนื้อเพลงและดนตรีที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อละครเรื่องนี้ + back stage + การควบคุมแสง สี เสียง และ effects ทำได้ยอดเยี่ยมน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
เสียดายที่ผมไม่สามารถเข้าไปดูรอบสุดท้ายที่เป็นเสน่ห์สำคัญของละครถาปัดทุกๆปีไป
แต่รอบที่ผมเข้าไปดูคือรอบ "ก่อนสุดท้าย" ซึ่งถือเป็นรอบที่ดีที่สุดรอบนึงในบรรดาการแสดงหลายๆรอบ ของทุกๆเรื่อง เพราะเป็นรอบที่ทุกคน ตั้งใจ และมีความชำนาญ แล้วหลังจากที่แสดงมาหลายรอบ
ขอแสดงความยินดีและชื่นชมพี่ๆน้องๆผู้มีส่วนร่วมใน "เดชไอ้ด้วน" ทุกๆท่าน
ที่จะขาดไปสำหรับผม (ไม่เกี่ยวกับละครเดชไอ้ด้วน) ก็คือเพื่อนๆรุ่นเดียวกันกับผมซึ่งก็ต่างแยกย้ายกันไป
ตามวิถีทางของตนเอง เวลาว่างที่จะกลับมาชมละครจึงแตกต่างกันไป ความพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบสมัยที่เป็นนิสิตจึงเป็นได้เพียง
ความประทับใจในความทรงจำที่ดีเท่านั้น.....
คงจะดีไม่น้อยถ้าได้กลับมาดูละครพร้อมๆกับได้เจอเพื่อนๆที่เรียนด้วยกันมา
หลังจากนี้ไป ถ้าผมยังมีชีวิตอยู่และยังอยู่ที่เมืองไทย
ผมจะพยายามที่จะไม่พลาดละครสถาปัตย์อีกเลย . . .
ภาพข้างล่างนี้เป็นสูจิบัตรสำหรับละครรุ่นที่ผมและเพื่อนๆสถาปัตย์จุฬารุ่น 60 จัดทำขึ้น.....มันผ่านมานานแล้วจริงๆ.....ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันนานขนาดนี้.....
แต่ความสนุกสนาน+วุ่นวายยังคงวนเวียนอยู่ในกะบาลของผมจริงๆ...
เหมือนๆมันพึ่งจะผ่านไปไม่นานนี้เอง
พึ่งจะมามีโอกาสกลับมาดูอีกครั้งก็ปีนี้เอง กับเรื่อง "เดชไอ้ด้วน"
ผมไปที่โรงละครทั้งๆที่ไม่มีบัตร เนื่องจากบัตรได้ถูกขายหมดไปแล้ว แต่ด้วยความหวังที่ว่าจะมีคน cancel หรือมีการเพิ่มเก้าอี้เสริม ผมจึงเดินทางไปรอ และผมพบว่าไม่ผิดหวังจริงๆกับการติดสินใจครั้งนี้
ในที่สุดผมได้ตั๋วเข้าไปชม..........
เช่นเดียวกับทุกๆปี ที่จะหยิบยก theme ขึ้นมาจากหนังสือ หรือ นิยาย ที่รุ่นนั้นๆชื่นชอบ.....ไม่ว่าจะเป็น จีน ฝรั่ง หรือละครไทยๆ ก็มีมาแล้วทั้งนั้น สำหรับ เดชไอ้ด้วน...นิยายกำลังภายในที่โด่งดังในหน้าหนังสือที่ถูกหยิบยกมาเป็นละครสบายๆ style ถาปัดจุฬาในปีนี้ จึงไม่เป็นที่แปลกใจสำหรับผมเท่าไหร่เพราะ ซื่อลี่ และ ชอลิ้วเฮียง ก็เคยผ่านตามาแล้วจากรุ่นพี่รุ่นน้องรุ่นใกล้ๆกันกับผม
แต่หลังจากที่ได้เข้าไปชม เดชไอ้ด้วน...ผมถึงกับต้องอึ้งไป...อึ้งไปกับความตั้งใจทำงานของน้องๆที่ทำละคร, กับพี่เก่าที่ยังแวะเวียนมาให้กำลังใจเสมอๆ และบรรยากาศเก่าๆที่ผมเคยผ่านมา.
เดชไอ้ด้วนไม่ทำให้ผมผิดหวังแม้แต่น้อย เพราะนอกจากทำให้ผมได้เห็นถึง ละคร style ถาปัด และมุขตลกเรียกเสียงฮาแบบถาปัดการละครที่บางคนอาจจะเบื่อไปแล้ว ผมยังได้เห็นถึง production ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้มืออาชีพเลยทีเดียว . . . การฝึกซ้อมการแสดงของนักแสดงทุกๆคน + การเต้นประกอบเพลง + เนื้อเพลงและดนตรีที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อละครเรื่องนี้ + back stage + การควบคุมแสง สี เสียง และ effects ทำได้ยอดเยี่ยมน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
เสียดายที่ผมไม่สามารถเข้าไปดูรอบสุดท้ายที่เป็นเสน่ห์สำคัญของละครถาปัดทุกๆปีไป
แต่รอบที่ผมเข้าไปดูคือรอบ "ก่อนสุดท้าย" ซึ่งถือเป็นรอบที่ดีที่สุดรอบนึงในบรรดาการแสดงหลายๆรอบ ของทุกๆเรื่อง เพราะเป็นรอบที่ทุกคน ตั้งใจ และมีความชำนาญ แล้วหลังจากที่แสดงมาหลายรอบ
ขอแสดงความยินดีและชื่นชมพี่ๆน้องๆผู้มีส่วนร่วมใน "เดชไอ้ด้วน" ทุกๆท่าน
ที่จะขาดไปสำหรับผม (ไม่เกี่ยวกับละครเดชไอ้ด้วน) ก็คือเพื่อนๆรุ่นเดียวกันกับผมซึ่งก็ต่างแยกย้ายกันไป
ตามวิถีทางของตนเอง เวลาว่างที่จะกลับมาชมละครจึงแตกต่างกันไป ความพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบสมัยที่เป็นนิสิตจึงเป็นได้เพียง
ความประทับใจในความทรงจำที่ดีเท่านั้น.....
คงจะดีไม่น้อยถ้าได้กลับมาดูละครพร้อมๆกับได้เจอเพื่อนๆที่เรียนด้วยกันมา
หลังจากนี้ไป ถ้าผมยังมีชีวิตอยู่และยังอยู่ที่เมืองไทย
ผมจะพยายามที่จะไม่พลาดละครสถาปัตย์อีกเลย . . .
ภาพข้างล่างนี้เป็นสูจิบัตรสำหรับละครรุ่นที่ผมและเพื่อนๆสถาปัตย์จุฬารุ่น 60 จัดทำขึ้น.....มันผ่านมานานแล้วจริงๆ.....ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันนานขนาดนี้.....
แต่ความสนุกสนาน+วุ่นวายยังคงวนเวียนอยู่ในกะบาลของผมจริงๆ...
เหมือนๆมันพึ่งจะผ่านไปไม่นานนี้เอง
Shrine
1 comments |
This entry was posted on May 24, 2005
Best friends
0
comments |
This entry was posted on
These are the very best friends ever of mine.
Whether i feel sad, bad, lonely or happy, they stay with me always.
I met both of them in USA. The string one is Ovation S868-4GC Special Elite and the nylon one is Yamaha slient guitar SGL100N.
I met Ovation at Guitar Center in Atlanta, GA (2000) and Yamaha at Guitar Center in LA last year (2004).
I bring them back to Bangkok and they are now staying in my bedroom. Staying with me and encourage me for my everyday life.
"No music, No life"
Do you like music ?
Whether i feel sad, bad, lonely or happy, they stay with me always.
I met both of them in USA. The string one is Ovation S868-4GC Special Elite and the nylon one is Yamaha slient guitar SGL100N.
I met Ovation at Guitar Center in Atlanta, GA (2000) and Yamaha at Guitar Center in LA last year (2004).
I bring them back to Bangkok and they are now staying in my bedroom. Staying with me and encourage me for my everyday life.
"No music, No life"
Do you like music ?
Offline Portfolio
2
comments |
This entry was posted on May 23, 2005
The internet speed in Thailand is a big issue for every client and/or studio to browse through my site, v74.
Especially for quicktime movies, without ADSL, no one can stand the loading period.
Therefore I decide to bring it offline to get rid off the internet issue.
Here is the v74 offline interactive portfolio.
Especially for quicktime movies, without ADSL, no one can stand the loading period.
Therefore I decide to bring it offline to get rid off the internet issue.
Here is the v74 offline interactive portfolio.
Pattaya 2005
0
comments |
This entry was posted on
Just visited Pattaya yesterday. Very relaxing !
Laying down on the beach and absorb a sea breeze are the very best activities for refreshing my life.
Pataya 2005 is still the same as the old one i used to visit. Although the weather isn't as good as Santa Monica beach but Pattaya is an impressive place to come back again and again.
.........so lazy now..........
Laying down on the beach and absorb a sea breeze are the very best activities for refreshing my life.
Pataya 2005 is still the same as the old one i used to visit. Although the weather isn't as good as Santa Monica beach but Pattaya is an impressive place to come back again and again.
.........so lazy now..........
FTA // Free Trade Area // Future Thai Architect
0
comments |
This entry was posted on May 22, 2005
This month, May 2005, I have a chance to work for G49 in the project "FTA".
My parts for this project are to design the poster "Strategy" and the 72 sq.m. partition board about "free trade area" in the "Architect 05" located at Impact Arena.
Would like to thanks P'Kai G49 for giving me a chance to design this job and P'Orn G49 who help me clearing the complex content of FTA. Without her, I can't finish this job on time.
I will add this project with more pics into my site as soon as i have time.
Here is the 72 sq.m. partition boards. Click the image to see higher resolution.
My parts for this project are to design the poster "Strategy" and the 72 sq.m. partition board about "free trade area" in the "Architect 05" located at Impact Arena.
Would like to thanks P'Kai G49 for giving me a chance to design this job and P'Orn G49 who help me clearing the complex content of FTA. Without her, I can't finish this job on time.
I will add this project with more pics into my site as soon as i have time.
Here is the 72 sq.m. partition boards. Click the image to see higher resolution.
Donald Dick (Lingerie)
0
comments |
This entry was posted on May 21, 2005
Here is the most funniest rock band in the world, Donald Dick.
(Please do not ask me what does it mean?)
This is the coolest rock band, which I and my architect friends set it up when we were studying in the faculty of architecture at Chulalongkorn University.
Such a good memory !
We got a championship of Coke Music Awards in Chulalongkorn University and reach the semi final round for the final contest.
We played heavy metal with love and fun.
Later on, we had a chance to make our own songs with EMI Thailand.
Only Acoustic Version was recorded. Unlucky us, EMI Thailand was closed before we release our rock album.
Listen to our song here :
อยากเก็บรัก (ไว้อย่างนี้)
(Acoustic Version)
.....................................................
Still lovely every time i listen to it. Not because of its melody and lyric but the good old day memory. . .
(Please do not ask me what does it mean?)
This is the coolest rock band, which I and my architect friends set it up when we were studying in the faculty of architecture at Chulalongkorn University.
Such a good memory !
We got a championship of Coke Music Awards in Chulalongkorn University and reach the semi final round for the final contest.
We played heavy metal with love and fun.
Later on, we had a chance to make our own songs with EMI Thailand.
Only Acoustic Version was recorded. Unlucky us, EMI Thailand was closed before we release our rock album.
Listen to our song here :
อยากเก็บรัก (ไว้อย่างนี้)
(Acoustic Version)
.....................................................
Still lovely every time i listen to it. Not because of its melody and lyric but the good old day memory. . .
Graphic Magazine in USA
0
comments |
This entry was posted on May 20, 2005
จะบอกว่าการได้อ่าน blog ของ x-saint เป็นการจุดประกายในการเขียน v74 blog คงไม่ผิดนัก
จริงๆรู้จัก blogger มานานมากแล้ว . . . ตั้งแต่ไอ้ Wit มันไปเรียนที่ England แล้วมันก็ชอบบันทึก+เล่าเรื่องน่าสนใจผ่านทาง blog ของมัน
จากวันนั้นถึงวันนี้......ผ่านมาหลายปี.....จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้มีเวลามาเขียน blog ของตัวเองสักที
จนมาเจอ xsaint's blog ที่เขียนถึงการที่โรงเรียน SCAD ที่ผมเรียน กับ AAU ที่ X-Saint เรียนอยู่ เอางานของเราไป promote โรงเรียนใน Graphic magazine ต่างๆ . . . ซึ่งก็น่าจะทำให้เราดีใจได้อยู่บ้าง
งาน Title Game Animation จาก X-Saint ที่ผมเชื่อว่าทั้ง Professor และ Classmate ของ x-saint ต้องชื่นชมแต่เจ้าตัวเองบอกว่ายังไม่ดีเท่าไหร่.....
งาน Motorcycle เป็นภาพนิ่งทำจาก Maya ใน Modeling Class ที่ SCAD เป็น Final Project ใน class.
จาก blog ของ x-saint อันนี้เองทำให้ผมคิดว่า น่าจะถึงเวลาเขียน blog ของตัวเองได้สักที
เหมือนๆการเขียน diary แต่เป็น public diary นั่นเอง
ก็อาจจะเป็นการเก็บบันทึกความทรงจำและเป็นการฝึกระเบียบวินัยของเราได้ทางนึง . . . ทั้งๆที่ไม่ใช่คนชอบเขียนอะไรสักเท่าไหร่
จริงๆรู้จัก blogger มานานมากแล้ว . . . ตั้งแต่ไอ้ Wit มันไปเรียนที่ England แล้วมันก็ชอบบันทึก+เล่าเรื่องน่าสนใจผ่านทาง blog ของมัน
จากวันนั้นถึงวันนี้......ผ่านมาหลายปี.....จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้มีเวลามาเขียน blog ของตัวเองสักที
จนมาเจอ xsaint's blog ที่เขียนถึงการที่โรงเรียน SCAD ที่ผมเรียน กับ AAU ที่ X-Saint เรียนอยู่ เอางานของเราไป promote โรงเรียนใน Graphic magazine ต่างๆ . . . ซึ่งก็น่าจะทำให้เราดีใจได้อยู่บ้าง
งาน Title Game Animation จาก X-Saint ที่ผมเชื่อว่าทั้ง Professor และ Classmate ของ x-saint ต้องชื่นชมแต่เจ้าตัวเองบอกว่ายังไม่ดีเท่าไหร่.....
งาน Motorcycle เป็นภาพนิ่งทำจาก Maya ใน Modeling Class ที่ SCAD เป็น Final Project ใน class.
จาก blog ของ x-saint อันนี้เองทำให้ผมคิดว่า น่าจะถึงเวลาเขียน blog ของตัวเองได้สักที
เหมือนๆการเขียน diary แต่เป็น public diary นั่นเอง
ก็อาจจะเป็นการเก็บบันทึกความทรงจำและเป็นการฝึกระเบียบวินัยของเราได้ทางนึง . . . ทั้งๆที่ไม่ใช่คนชอบเขียนอะไรสักเท่าไหร่
JWT
2
comments |
This entry was posted on May 19, 2005
Just had an interview with JWT yesterday.
Finally, I will join JWT as a motion graphic designer next month.
Let see what will happen.
Finally, I will join JWT as a motion graphic designer next month.
Let see what will happen.
v74's work space
0
comments |
This entry was posted on May 16, 2005
เริ่มต้นกับ blogger ด้วย v74's work space
เป็นพื้นที่ที่ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของทุกๆวันอยู่ที่นี่ . . . ในที่สุดผมก็ได้ย้ายกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดอีกครั้ง หลังจากไปผจญภัยหาประสบการณ์ต่างแดนที่ USA อยู่ 4 ปีเต็ม ก็ต้องมีการปรับตัวอยู่พอสมควร. . .
ผมพยายาม set up ทุกๆอย่างให้ง่ายและน้อยที่สุดเหมือนที่คุ้นเคยแบบในช่วงที่ไปอยู่ที่ต่างแดน แต่พอเริ่มงานเมื่องานเข้ามาจริงๆ ก็ยังไม่วายเกิดความ "รก" ขึ้นมาจนได้
ภาพนี้ถ่ายช่วงที่ผมรับงานออกแบบหนังสือ (book design) ทำเนียบสมาชิกนิสิตเก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สังเกตุเห็นเพื่อนรักทั้ง 2 ของผมในภาพนี้ไหม?
เป็นพื้นที่ที่ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของทุกๆวันอยู่ที่นี่ . . . ในที่สุดผมก็ได้ย้ายกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดอีกครั้ง หลังจากไปผจญภัยหาประสบการณ์ต่างแดนที่ USA อยู่ 4 ปีเต็ม ก็ต้องมีการปรับตัวอยู่พอสมควร. . .
ผมพยายาม set up ทุกๆอย่างให้ง่ายและน้อยที่สุดเหมือนที่คุ้นเคยแบบในช่วงที่ไปอยู่ที่ต่างแดน แต่พอเริ่มงานเมื่องานเข้ามาจริงๆ ก็ยังไม่วายเกิดความ "รก" ขึ้นมาจนได้
ภาพนี้ถ่ายช่วงที่ผมรับงานออกแบบหนังสือ (book design) ทำเนียบสมาชิกนิสิตเก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สังเกตุเห็นเพื่อนรักทั้ง 2 ของผมในภาพนี้ไหม?