Long weekend ที่ผ่่านมา หลายๆคนพาตัวเองออกนอกเมือง พักผ่อนและหลบหนีความวุ่นวายของชีวิตการงานที่น่าเบื่อหน่าย
ผมพบตัวเองนั่งอยู่ในโถงกว้างมืดมิดที่บรรจุคนได้นับพัน ในค่ำคืนที่แสนเงียบเหงาวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เครื่องปรับอากาศทำงานเต็มที่ส่งความสบายแจกจ่ายอย่างทั่วถึง
ผมนั่งคนเดียวที่หลังกลุ่มคนใจเดียวกันจำนวนนับร้อย ที่เข้ามากระโดด และร้องเพลงที่พวกเขาชื่นชอบในอดีต
นักดนตรีหน้าเก่าที่เคยเป็นที่รู้จักของกลุ่มคนฟังเล็กๆในอดีต หรือที่เราเรียกพวกเขาว่ากลุ่มคนทำดนตรี Indy ต่างทยอยกันขึ้นบรรเลงบทเพลงของตัวเองที่เคยเป็นที่รู้จักของกลุ่มนักฟังเพลง indy ในอดีต
Playground
เออ
Nursery Sound
อู๋ ธรรพ์ณธร
สุกัลยา มิเกล
jinx
อัยย
Flure
อรอรีย์
Crub
Audy
Pex Bluesky
The Must
Blackhead
ป้าง
ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาเพื่อดู concert ครั้งนี้ !
จุดประสงค์ของผมตั้งเดิมคือ ต้องการไปหา Audio CD เก่าๆที่ผมไม่ได้ซื้อไว้ในสมัยก่อน แต่ต้องผิดหวังเพราะร้าน CD ต่างๆถูกย้ายเข้าสู่พื้นที่ด้านใน สำหรับคนที่มีบัตร concert เท่านั้นจึงจะเข้าไปซื้อได้
ความที่อยากได้ CD เก่าๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้่าง กอรปกับความเครียดและเบื่อที่ผ่านมา ทำให้ผมตัดสินใจซื้อบัตร concert เพียงเพื่อจะเข้าไปดู CD เก่าๆด้านใน
คาดว่าถ้าเจอ CD ที่ต้องการก็จะกลับบ้าน ไม่ได้สนใจ concert เลย . . .
แต่แล้วผมก็ผ่านเวลาชีวิตของผมที่นี่ถึงตี 1 อย่างไม่ได้ตั้งใจ
เพลงเก่าที่คุ้นหู
นักดนตรีที่ผมไม่เคยได้ดูเขาแสดงสดที่ไหน
ภาพแห่งความทรงจำในอดีตของตัวเอง ฉายชัดขึ้น
และความสนุกที่ยึดผมไว้ไม่ให้กลับบ้าน
นอกจาก concert ย้อนอดีตที่น่าประทับใจแล้ว ผมยังได้ CDs ที่ทั้งเก่าและไม่เก่าติดมือกลับบ้านมาด้วยเล็กน้อย
ทั้งหมดคือความสุขราคาแพงที่ผมถือว่าคุ้มค่า . . .
Spring - Spring Doggy กลุ่มดนตรี Alternative ที่ไม่ประสบความสำเร็จในด้านยอดขาย
จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า เพลงแทบทั้งหมดถูกแต่งและ produced by พี่เต็น มือ guitar Smile Buffalo
พี่ต่อ มือกลอง คือมือกลอง Silly Fools ในปัจจุบัน
และวงนี้เป็นวงที่เล่น backup ให้กับ อัยย์ ตอน tour concert ทั่วประเทศ
Boyd EP ของอัลบั้มชุดใหม่ ที่แจก Free แต่ผมต้องเสียเงินซื้อมาเพราะตามหาไม่ได้สักที
พอง พอง - ของค้าง stock ในราคาไม่ถึงร้อยบาท แต่ร้านมือสองขายกันที่ 350 บาท
Boxer EP ตอกไข่
วงดนตรีของ หลานพระเอกตลอดกาล สมบัติ เมทะนี กับตำแหน่งนักร้องนำ
และ ชุ มือ guitar วง Seal ในปัจจุบัน . . .
Silly Fools VCD Fat concert - ของค้าง stock ที่หาซื้อไม่ได้แล้วเช่นกัน
ModernDog EP - Animal
ที่หายากขึ้นทุกวัน
และอีกหลากหลายแผ่นที่น่าสะสมแต่ไม่ดีกับกระเป๋าสตางค์ของผมเท่าไหร่ จึงต้องตัดใจไปบ้าง
อย่างน้อย ก็ดีกว่าเอาเงินไปลงที่วิสกี้ล่ะน่า . . .
Entrance 35'
9
comments |
This entry was posted on July 26, 2007
หลายคนมองว่าการสอบ Entrance เป็นเรื่องง่าย ไม่ต่างอะไรกับการสอบไล่วิชาต่างๆในห้องเรียน . . . หลายคนสอบแล้วสอบอีก เปลี่ยนคณะไปเรื่อยๆเพราะยังไม่เจอคณะที่ถูกใจ . . . หลายคนสอบแล้วสอบอีกก็ยังไม่สามารถเข้าคณะใดๆได้ . . .
หลายคน . . . จบชีวิตตัวเองลง เพราะ สอบไม่ผ่าน
ระบบการเรียนของไทย ในยุคที่ผมยังเป็นนักเรียนนั้น การเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยใช้วิธีสอบ Entrance รวม เพียงครั้งเดียว
1 ปี มีการสอบเพียง 1 ครั้งเท่านั้น ไม่ว่าผู้สอบต้องการจะเข้าศึกษาต่อที่คณะอะไร ก็ต้องสอบร่วมกันทั้งหมด ในการสอบครั้งนี้ นั่นหมายความว่า หากสอบไม่ผ่าน ต้องรออีก 1 ปีเพื่อสอบใหม่
สอบ Entrance จึงเป็นเหมือนประตูสู่รั้วมหาวิทยาลัย ที่นักเรียนทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความกดดันและความเครียดจึงมีสูงสำหรับนักเรียนหลายๆคน เนื่องด้วยไม่อยากพลาดและผิดหวัง หรือต้องรออีก 1 ปีเพื่อสอบใหม่ เหมือนเรียน high school มา 6 ปี (ม1-ม6) เพื่อการสอบเพียงวันเดียว
แม้ว่า มหาวิทยาลัยเปิดอย่าง ม.รามคำแหง จะเปิดโอกาสให้เข้าเรียนได้โดยไม่ต้องสอบเข้า แต่ที่นั่นไม่มีคณะที่ผมอยากเรียน
การสอบ Entrance ในยุคนั้น เปิดโอกาสให้ผู้สอบ เลือกคณะที่จะเข้าสอบได้ 5 อันดับ คะแนนสอบรวมทุกวิชา จะถูกนำไปคัดเลือกกับผู้สอบทั่วประเทศ ผู้ที่มีคะแนนสูงที่สุดตามจำนวนที่คณะนั้นๆเปิดรับ จะเป็นผู้ที่ได้เข้าเรียนต่อ หากพลาดอันดับ 1 ก็มาวัดคะแนนกับคณะอันดับที่ 2, 3, 4, 5 ต่อไป
"สอบ Entrance เป็นเหมือนการวัดอนาคต ของเด็กนักเรียนไทย
สอบ Entrance เป็นการทดสอบความรู้ทั้งหมดที่ได้เรียนมา
สอบ Entrance เป็นใบเบิกทางไปสู่อาชีพการงานที่ดี
สอบ Entrance เป็นหน้าเป็นตา เป็นเกียรติ เป็นความภาคภูมิใจ
สอบ Entrance เป็นได้ทุกอย่างสำหรับเด็กนักเรียนมัธยม"
แม้ว่าในวันนี้ ผมพบว่า ข้อความดังกล่าวนั้น ไม่เป็นความจริงเสมอไป
แต่สำหรับเด็กในวัยเตรียมสอบ Entrance แล้วนั้น . . . จะมีสักกี่คนที่จะเข้าใจ และไม่มีความกดดัน?
ผมคว้า วัฎจักร ฉบับพิเศษขึ้นจากแผงหนังสือที่ตลาดอ่อนนุช
ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็พบชื่อของผมในรายชื่อหน้าแรก
แม้ว่า รอยยิ้ม ความภูมิใจ โล่งอก เติมเต็มหัวใจผมมาล่วงหน้าแล้ว
จากจดหมายประกาศผลสอบที่ส่งตรงถึงบ้าน แต่การเห็นรายชื่อของตัวเองในหนังสือพิมพ์ของเช้าวันรุ่งขึ้นก็เป็นการยืนยันว่า "ผมสอบผ่าน" แล้วจริงๆ
หลายคนมองว่าการสอบ Entrance เป็นเรื่องง่าย ไม่ต่างอะไรกับการสอบไล่วิชาต่างๆในห้องเรียน
แต่หลายคนรวมทั้งผม ดีใจ และภูมิใจมาก ที่ผ่านการสอบ
Entrance ได้ . . .
เวลาช่างผ่านไปไวเหมือนโกหกจริงๆ . . .
หลายคน . . . จบชีวิตตัวเองลง เพราะ สอบไม่ผ่าน
ระบบการเรียนของไทย ในยุคที่ผมยังเป็นนักเรียนนั้น การเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยใช้วิธีสอบ Entrance รวม เพียงครั้งเดียว
1 ปี มีการสอบเพียง 1 ครั้งเท่านั้น ไม่ว่าผู้สอบต้องการจะเข้าศึกษาต่อที่คณะอะไร ก็ต้องสอบร่วมกันทั้งหมด ในการสอบครั้งนี้ นั่นหมายความว่า หากสอบไม่ผ่าน ต้องรออีก 1 ปีเพื่อสอบใหม่
สอบ Entrance จึงเป็นเหมือนประตูสู่รั้วมหาวิทยาลัย ที่นักเรียนทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความกดดันและความเครียดจึงมีสูงสำหรับนักเรียนหลายๆคน เนื่องด้วยไม่อยากพลาดและผิดหวัง หรือต้องรออีก 1 ปีเพื่อสอบใหม่ เหมือนเรียน high school มา 6 ปี (ม1-ม6) เพื่อการสอบเพียงวันเดียว
แม้ว่า มหาวิทยาลัยเปิดอย่าง ม.รามคำแหง จะเปิดโอกาสให้เข้าเรียนได้โดยไม่ต้องสอบเข้า แต่ที่นั่นไม่มีคณะที่ผมอยากเรียน
การสอบ Entrance ในยุคนั้น เปิดโอกาสให้ผู้สอบ เลือกคณะที่จะเข้าสอบได้ 5 อันดับ คะแนนสอบรวมทุกวิชา จะถูกนำไปคัดเลือกกับผู้สอบทั่วประเทศ ผู้ที่มีคะแนนสูงที่สุดตามจำนวนที่คณะนั้นๆเปิดรับ จะเป็นผู้ที่ได้เข้าเรียนต่อ หากพลาดอันดับ 1 ก็มาวัดคะแนนกับคณะอันดับที่ 2, 3, 4, 5 ต่อไป
"สอบ Entrance เป็นเหมือนการวัดอนาคต ของเด็กนักเรียนไทย
สอบ Entrance เป็นการทดสอบความรู้ทั้งหมดที่ได้เรียนมา
สอบ Entrance เป็นใบเบิกทางไปสู่อาชีพการงานที่ดี
สอบ Entrance เป็นหน้าเป็นตา เป็นเกียรติ เป็นความภาคภูมิใจ
สอบ Entrance เป็นได้ทุกอย่างสำหรับเด็กนักเรียนมัธยม"
แม้ว่าในวันนี้ ผมพบว่า ข้อความดังกล่าวนั้น ไม่เป็นความจริงเสมอไป
แต่สำหรับเด็กในวัยเตรียมสอบ Entrance แล้วนั้น . . . จะมีสักกี่คนที่จะเข้าใจ และไม่มีความกดดัน?
ผมคว้า วัฎจักร ฉบับพิเศษขึ้นจากแผงหนังสือที่ตลาดอ่อนนุช
ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็พบชื่อของผมในรายชื่อหน้าแรก
แม้ว่า รอยยิ้ม ความภูมิใจ โล่งอก เติมเต็มหัวใจผมมาล่วงหน้าแล้ว
จากจดหมายประกาศผลสอบที่ส่งตรงถึงบ้าน แต่การเห็นรายชื่อของตัวเองในหนังสือพิมพ์ของเช้าวันรุ่งขึ้นก็เป็นการยืนยันว่า "ผมสอบผ่าน" แล้วจริงๆ
หลายคนมองว่าการสอบ Entrance เป็นเรื่องง่าย ไม่ต่างอะไรกับการสอบไล่วิชาต่างๆในห้องเรียน
แต่หลายคนรวมทั้งผม ดีใจ และภูมิใจมาก ที่ผ่านการสอบ
Entrance ได้ . . .
เวลาช่างผ่านไปไวเหมือนโกหกจริงๆ . . .
Play
2
comments |
This entry was posted on July 17, 2007
โลกของวัยเด็กมีแสงเรืองรองปรากฎขึ้นต่อสายตา
ยินเสียงแว่วเข้ามาเป็นระยะๆ
เสียงของผมเอง
เสียงของดิน ทราย และใบหญ้า
ที่พูดคุยกับผมอย่างสนุกสนาน
เสียงของสิ่งไม่มีชีวิตที่มีชีวิต จากจินตนาการบริสุทธิ์
ผมรู้สึกว่าผม 'ตื่นเต้น' เมื่อได้สัมผัสโลกใบนี้่อีกครั้ง
...โลกของการ 'เล่น' (play)
มิตรภาพระหว่างเรา ถูกกล่าวย้ำแนบแน่น
และเติบโตขึ้น เมื่อผมได้เปิดหนังสือเล่มนี้ผ่านสายตาในวัยที่ร่วงโรย
วัยที่ผมก้าวมายืนอยู่ในฝั่งของคนทำงาน ผู้ผลิตงาน และผู้บริการ
ในขณะที่ผู้ผลิต (designer) ออกแบบและผลิตสื่อและสินค้า (product) เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ต่อชีวิต
เด็กพูดกับโลกรอบๆตัวเขา ประกาศถึงสิ่งสำคัญและมีความหมายต่อชีวิตของเขาด้วยการ 'เล่น'
Play Times Magazine จึงเป็นเสมือนสื่อที่เชื่อมโยงระหว่างโลกวัยเด็กและวัยทำงานเข้าด้วยกัน
มันคือโลกที่เป็นอิสระและมีอิสระ
โลกที่เป็นมิตรและเปิดรับคนทุกวัยที่ชื่นชอบการ 'เล่น'
ให้เข้าสู่มิติที่ไร้ข้อจำกัดทางจินตนาการ
และกาีร 'เล่น' นี้เองที่สร้างความสนุกสนาน สร้างความคิดสร้างสรร งดงาม เรื่องแล้วเรื่องเล่า . . .
ยินเสียงแว่วเข้ามาเป็นระยะๆ
เสียงของผมเอง
เสียงของดิน ทราย และใบหญ้า
ที่พูดคุยกับผมอย่างสนุกสนาน
เสียงของสิ่งไม่มีชีวิตที่มีชีวิต จากจินตนาการบริสุทธิ์
ผมรู้สึกว่าผม 'ตื่นเต้น' เมื่อได้สัมผัสโลกใบนี้่อีกครั้ง
...โลกของการ 'เล่น' (play)
มิตรภาพระหว่างเรา ถูกกล่าวย้ำแนบแน่น
และเติบโตขึ้น เมื่อผมได้เปิดหนังสือเล่มนี้ผ่านสายตาในวัยที่ร่วงโรย
วัยที่ผมก้าวมายืนอยู่ในฝั่งของคนทำงาน ผู้ผลิตงาน และผู้บริการ
ในขณะที่ผู้ผลิต (designer) ออกแบบและผลิตสื่อและสินค้า (product) เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ต่อชีวิต
เด็กพูดกับโลกรอบๆตัวเขา ประกาศถึงสิ่งสำคัญและมีความหมายต่อชีวิตของเขาด้วยการ 'เล่น'
Play Times Magazine จึงเป็นเสมือนสื่อที่เชื่อมโยงระหว่างโลกวัยเด็กและวัยทำงานเข้าด้วยกัน
มันคือโลกที่เป็นอิสระและมีอิสระ
โลกที่เป็นมิตรและเปิดรับคนทุกวัยที่ชื่นชอบการ 'เล่น'
ให้เข้าสู่มิติที่ไร้ข้อจำกัดทางจินตนาการ
และกาีร 'เล่น' นี้เองที่สร้างความสนุกสนาน สร้างความคิดสร้างสรร งดงาม เรื่องแล้วเรื่องเล่า . . .
เฉลียง
0
comments |
This entry was posted on July 5, 2007
เสาร์ที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมชมดนตรีบำบัด ถาปัดจัด เฉลียงโชว์ ที่ผมไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้มีโอกาสอีกแล้ว เนื่องด้วยเฉลียงประกาศยุติการแสดงดนตรีอย่างเป็นทางการไว้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว
เฉลียงโชว์ เกิดขึ้นจากความประสงค์จะหาทุนเข้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และเสียงเรียกร้องจากแฟนๆ ที่พลาดและไม่พลาด concert ครั้งที่แล้ว จากการที่มีสมาชิก 3 คนที่จบการศึกษาจากคณะนี้ เฉลียงจึงตกกระไดพลอยโจนไปแบบที่พี่ดี้รู้สึกเขินและพูดไม่ค่อยออก เพราะเป็นคนบอกยุติการแสดงดนตรีอย่างเป็นทางการด้วยตัวเองเมื่อครั้งที่แล้ว
แม้จะกระทันหัน และมีเวลาเตรียมตัวที่น้อยมาก เฉลียงโชว์ก็เกิดขึ้นแล้ว อย่างสวยงาม อบอุ่น และประทับใจ
เกือบ 4 ชมเต็มกับตัวโน๊ตอารมณ์ดีหนึ่งเดียวของไทย ที่ไม่มีวงดนตรีไหนเลียนแบบได้
เฉลียง ยังคงเป็นวงดนตรีที่มีเสน่ห์มากที่สุดวงหนึ่งของไทย
เพลงเดิมๆที่คุ้นหู
หน้าเดิมๆที่คุ้นตา
รอยยิ้มจากเสียงดนตรี และ มุขที่เป็นเอกลักษณ์
ส่งให้เวลาเกือบ 4 ชมผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ผมไม่รีรอที่จะคว้า ระเบียงเพลง ติดมือกลับมาด้วย เพราะโอกาสที่จะหา CD ทุกอัลบั้มใน packaging เรียบง่ายและสวยงามแบบนี้คงจะมีไม่มากนัก
เป็นอีกหนึ่งวันที่ผมมีความสุข และ อิ่มเอมใจ
เฉลียงโชว์ เกิดขึ้นจากความประสงค์จะหาทุนเข้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และเสียงเรียกร้องจากแฟนๆ ที่พลาดและไม่พลาด concert ครั้งที่แล้ว จากการที่มีสมาชิก 3 คนที่จบการศึกษาจากคณะนี้ เฉลียงจึงตกกระไดพลอยโจนไปแบบที่พี่ดี้รู้สึกเขินและพูดไม่ค่อยออก เพราะเป็นคนบอกยุติการแสดงดนตรีอย่างเป็นทางการด้วยตัวเองเมื่อครั้งที่แล้ว
แม้จะกระทันหัน และมีเวลาเตรียมตัวที่น้อยมาก เฉลียงโชว์ก็เกิดขึ้นแล้ว อย่างสวยงาม อบอุ่น และประทับใจ
เกือบ 4 ชมเต็มกับตัวโน๊ตอารมณ์ดีหนึ่งเดียวของไทย ที่ไม่มีวงดนตรีไหนเลียนแบบได้
เฉลียง ยังคงเป็นวงดนตรีที่มีเสน่ห์มากที่สุดวงหนึ่งของไทย
เพลงเดิมๆที่คุ้นหู
หน้าเดิมๆที่คุ้นตา
รอยยิ้มจากเสียงดนตรี และ มุขที่เป็นเอกลักษณ์
ส่งให้เวลาเกือบ 4 ชมผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ผมไม่รีรอที่จะคว้า ระเบียงเพลง ติดมือกลับมาด้วย เพราะโอกาสที่จะหา CD ทุกอัลบั้มใน packaging เรียบง่ายและสวยงามแบบนี้คงจะมีไม่มากนัก
เป็นอีกหนึ่งวันที่ผมมีความสุข และ อิ่มเอมใจ