ศีลจุ่ม

vthink
เมื่อวานนี้ที่คณะสถาปัตยกรรม ศาสตร์จุฬาฯมีงานรับน้องชื่อ ศีลจุ่ม
เป็นงานที่รุ่นพี่รุ่นน้องหลาย ต่อหลายรุ่นมารวมตัวกัน ทั้งที่จบไปนานแล้ว และยังเรียนอยู่
เป็นวัน สิ้นสุด หรือ วันสุดท้ายของการรับน้องใหม่ก็ว่าได้

ในสมัย ที่ผมเป็นน้องปี 1
ผมจำได้ว่า งาน ศีลจุ่ม เป็นงานที่ classic และน่าประทับใจมากๆ
ตั้งแต่การเต้น ToTem Tom Tom (คล้ายการเต้นบูชายันต์ของเผ่าดินเดียแดง...โดยเต้นไปรอบๆเสา) ซึ่งเหนื่อยเอาการ

หลัง จากเต้นแล้วก็จะมีการ paint สีไปบนตัวของน้องๆ โดยให้รุ่นพี่เอาสีทาไปตามร่างกายของน้องใหม่ เปรียบเหมือนการถ่ายทอดวิชา ซึ่งน้องๆหลายคนอาจจะบ่นที่ล้างสีออกยากและน่ารำคาญ แต่สำหรับปีผม เราสนุกสนานกันมาก พี่ๆ paint เราด้วยความพยายามจะให้มี idea ที่ creative
บ้าง ก็เป็น superman หรือ super hero ต่างๆ บ้างก็ใช้สีคู่ขนาน บ้างก็ใช้สีที่ตัดกันให้ดูเด่นดูสะดุดตา บ้างก็ paint เพื่อให้เข้ากับฉากหลังหรือกำแพง แล้วถ่ายรูป

ซึ่งสุดท้าย แล้ว จะเต็มไปด้วยสีสันมากมายที่ถูกระบายออกมาแล้วทำให้คณะดูสดใสขึ้นและเต็มไป ด้วยรอยยิ้ม
แล้วตามด้วย. . .การแห่เชือกขนาดใหญ่ที่ให้น้องใหม่ทุกคนเดินแห่เชือกเส้นเดียวกันไปรอบๆ จุฬา นัยว่าให้ทุกคนรวมใจเป็นหนึ่งเดียวและมีความอดทน

ต่อด้วยการเดินแห่โคมไฟที่เราออกแบบ+ประดิษฐ์ (เมื่อคืนก่อน) ไปทักทายเพื่อนๆคณะอื่นๆ ให้เพื่อนๆคณะอื่นได้เห็นและชื่นชมกับโคมไฟที่สวยงามหลากหลาย design

เมื่อกลับเข้ามาสู่ คณะอีกครั้ง จะเดินเข้าทางโถงกลาง (main entrance) ผ่านเข้าไปในโถงกลางซึ่งจะมีพี่ๆยืนตอนรับอยู่ตามบันไดรอบๆเป็นจำนวนมาก (เป็นโถงที่มีบันไดล้อมรอบขึ้นไปถึงชั้น 4) เมื่อน้องเข้ามาทั้งหมดแล้ว (รุ่นผมมีนิสิตประมาณร้อยนิดๆ) ทุกคนจะมายืนรวมๆ เบียดๆกัน จากนั้นพี่ๆก็จะเริ่มโปรยใบจามจุรีลงมาพร้อมๆไปกับการร้องเพลงต้อนรับน้อง เข้าสู่คณะอย่างเป็นทางการ

ใบจามจุรี จำนวนมาก (เป็นหมื่นเป็นแสนใบ) ถูกโปรยลงมาเหมือนฝนที่โปรยปราย . . . ใบแล้วใบเล่า + พี่ๆที่มายืนคอยต้อนรับในโถงบันไดจำนวนมากแม้ว่ามันจะร้อนมากๆก็ไม่บ่น + เพลงที่ร้องต้อนรับน้องๆเข้าสู่คณะ เป็นภาพที่ผมประทับใจมากๆและรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ
ผมและเพื่อนๆต้องยืนเบียดกันในโถง. . .ล้อมรอบไปด้วยพี่ๆ

มองเงยขึ้นไปถึงชั้น 4 เห็นโคมไฟสวยงามที่พี่ๆทำไว้ต้อนรับ และมองเห็นพี่ๆมากมายยืนล้อมรอบเราและโปรยใบจามจุรีลงมา . . . ผมแอบเห็นเพื่อนบางคนน้ำตาซึม เพราะซึ้งและอินไปด้วย
จากนั้นทุกคน (ทั้งพี่ทั้งน้อง) ร่วมร้องเพลงเชียร์ด้วยกัน เสียงเพลงดังกระหึ่ม . . . ผมรู้สึกได้ถึงความเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องกันอย่างแท้จริง . . .

เมื่อวานนี้ผมกลับไปที่คณะและเป็นหนึ่งใน พี่ๆที่ยืนคอยต้อนรับน้องในช่วงโปรยใบจามจุรี
ผมแปลกใจที่เห็นใบจามจุรีถูก โปรยลงมาก่อน . . . ในขณะที่มีน้องใหม่เดินเข้ามาที่โถงไม่ถึง 15 คน . . . น้องคนที่เดินตามมาจึงเห็นใบจามจุรีโปรยลงมาก่อน . . . ผมกับเพื่อนยืนงงว่าทำไมถึงรีบโปรยลงมา. . . .ความรู้สึก surprise และความอบอุ่นแบบที่ผมเคยถูกรับมามันเปลี่ยนไป . . .

คงไม่ได้เปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี เพราะผมเข้าใจว่าเด็กยุคใหม่ก็มีสังคมและมุมมองที่เปลี่ยนไปตามสมัยของเขา . . . การรับน้องหรือ approach + theme ในการรับก็เปลี่ยนไปตามรุ่นนั้นๆ

เพลงเชียร์ "ทำไมไม่ลุย" ที่รุ่นผมแต่งกันขึ้นมาก็ถูกดัดแปลง ต่อยอดกันออกไปจนผมฟังไม่คุ้นหู

แต่รอยยิ้มและความประทับใจของผมกับงานนี้ ยังมีอยู่เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ผมเห็นอาจารย์เผ่า (ที่สอนผมมาตั้งแต่ปีหนึ่ง) มายืนต้อนรับและโปรยใบจามจุรีกับพวกผมด้วย (แกมาทุกปีไม่เคยขาด . . . สมัยผมเรียนปี 1 แกเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง ใครที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยจะโดนแกเรียกไปตำหนิ . . . และเด็กๆจะหนีแกตลอด . . . หารู้ไม่ว่า แกเป็นคนที่ใจดี คุยง่าย . . . รักคณะและทุ่มเทให้คณะอย่างจริงใจ . . . แกไม่ได้น่ากลัวแต่อย่างใด)

รุ่นพี่ที่อายุมากแล้วหลายๆท่านก็กลับมา . . . ซูโม่กิ๊ก ก็กลับมางานนี้แทบทุกปี . . . ในสมัยที่ผมอยู่ปีนึงก็เห็นเขา . . . เมื่อวานนี้ผมก็เห็นเขาอีกพร้อมมุกตลกเรียกเสียงฮาตาม style ที่คุ้นเคย

หลังจากโปรยใบจามจุรีแล้ว ก็มาต่อกันที่งาน concert และสังสรรกันที่ cord โรงอาหาร . . . น้องๆที่นี่ยังนิยมการเล่นดนตรีแนว rock เหมือนในช่วงที่ผมเรียนอยู่ไม่เปลี่ยน อาจเป็นเพราะดนตรี rock เป็นดนตรีที่แรงและกระชากใจวัยรุ่น. . .ชวนให้เต้นและกระโดดกันอย่างสุดมันส์ได้ง่ายหรืออย่างไรผมก็ไม่แน่ใจ แต่ผมก็ได้ยิน ได้เห็นรุ่นแล้วรุ่นเล่าที่ยังคงขึ้นมาเล่น rock กันอยู่เสมอๆ . . . ผมนั่งฟังน้องๆเล่นแล้วก็อดคิดถึง Donald Dick ไม่ได้ . . .เมื่อวานนี้เพื่อนๆสมาชิกของ Donald Dick มากัน 3 คน . . . แล้วบทสนทนาพร้อมเสียงหัวเราะกับเรื่องเก่าๆของเราก็เริ่มต้นขึ้นอีกเช่นเคย

ไม่นานนักผมก็ขอปลีกตัวกลับบ้านก่อนเพราะเหนื่อยกับการทำธุระมากมายเมื่อวาน นี้
ไม่รู้ว่าหลังจากที่ผมกลับมาแล้ว จะมีอะไรสนุกๆเพิ่มเติมบ้างหรือเปล่า ?

ตื่นเช้าขึ้นมา ผมเปิดมติชน เจอข่าวเรื่องการ paint สีบนตัวของคณะสถาปัตย์จุฬาฯ ลงหน้าหนึ่ง . . . ก็อดอมยิ้มเสียมิได้ . . . พร้อมกับเปิดไปอ่าน "คุยกับประภาส" รุ่นพี่คนเก่งของน้องๆถาปัดจุฬาฯที่ผมติดตามอ่านบทความของแกเป็นประจำ . . . แกไม่ได้เขียนถึงคณะหรอกครับ เพียงแต่ผมรู้สึกว่า วันสองวันนี้ ชีวิตผม วนเวียนอยู่แถวๆนี้ก็เท่านั้น

ในช่วงที่มีข่าวเชิงลบ + การวิจารณ์การรับน้องอย่างมากมายตลอดเดือนนี้ในสื่อแขนงต่างๆ . . . ผมเข้าใจว่า ศีลจุ่ม คงไม่ได้เป็นงานรับน้องที่มีแต่ข้อดี หรือ มีแต่คนชอบ + คนรัก . . . .ผมมั่นใจว่าคงมีคนอีกไม่น้อยที่อึดอัดและไม่ชอบมัน

ไม่ว่าคนกลุ่มที่ไม่ชอบนั้น จะมีมากน้อยเพียงใด. . .ผมจะขอเป็นอีกหนึ่งคนที่จะรักและเก็บความรู้สึกที่ดีๆกับงาน ศีลจุ่ม ของคณะนี้ตลอดไป

 . . .แล้วอีกหนึ่งวันประทับใจของผมก็ผ่านไปด้วยรอยยิ้มและความสุข

ภาพข้างบน. . .ไม่เกี่ยวกับงาน ศีลจุ่ม หรอกครับ
มันเป็นรูปที่ผมและเพื่อนๆรุ่น 60 ถ่ายไว้ด้วยกันตอนไปเที่ยวทะเลสมัยที่เรายังเป็นนิสิตกันอยู่
ความสนุกสนาน + มิตรภาพระหว่างเพื่อน + รอยยิ้มและความประทับใจของการได้ใช้ชีวิตช่วงหนึ่งด้วยกันมันยากที่จะลืม จริงๆ

ผมว่าคุณเองก็คงมีประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ไม่ต่างไปจากผมเท่าไหร่
ว่างๆอย่าลืมหยิบอัลบั้มรูปเก่าๆขึ้นมาเปิดดูบ้างนะครับ . . . เผื่อว่ามันจะเพิ่มรอยยิ้มที่มุมปากให้กับชีวิตของคุณได้อีกครั้ง

5 Response to "ศีลจุ่ม"

gravatar
Anonymous Says:

เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ประทับใจจริงๆครับ
เมื่อวันเสาร์ก้อไปร่วมกิจกรรมมา (ผมรุ่น 73)

ซึ้งดีครับ
ประทับใจกับความเป็นพี่เป็นน้องของคณะจริงๆ
และใบจามจุรีนั่นก้อเป็นหมื่อนเป็นแสนใบจริงๆ - -"

gravatar
v74 Says:

อย่าลืมเตรียมตัวเป็นพี่ที่ดีรับน้องรุ่นต่อๆไปด้วยนะครับ

gravatar
dogdoy Says:

อ่านแล้วก็นึกไปถึงวันขึ้นตึกของรุ่นผมครับ วันนั้นก็ประทับใจเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงวันนั้นเป็นวันแรกของการรับน้อง พวกเราไปจบการรับน้องที่ต่างจังหวัด ซึ่งก็น่าประทับใจมากๆ

ว่าแต่ว่าพี่vud นี่คนไหนในรูปเหรอครับ?
คนข้างหน้าตรงกลางแห้งๆนี่ใช่พี่มนสิทธิ์ป่ะครับ

gravatar
v74 Says:

ต้อม monsit ไม่ได้อยู่ในภาพนี้เลยครับ
ส่วนพี่อยู่ด้านซ้าย ชู 2 มือ

ตอนนั้นผมยาวมาก . . .

gravatar
dogdoy Says:

อ้อ อยู่นั่นน่ะเอง คนข้างหน้าพี่เหมือนเค้ามีพังผืดเลย..